กรุงเทพฯ--9 ส.ค.--รอยเตอร์
**ต่างประเทศ
*ตลาดหุ้นสหรัฐปิดปรับตัวขึ้นในวันพฤหัสบดี หลังลดลง 3 วัน ขณะที่
การทะยานขึ้นของหุ้นไมโครซอฟท์ ได้ช่วยหนุนหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี โดย
ดัชนีดาวโจนส์ ปิดบวก 0.18%
*วานนี้ตลาดหุ้นเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ส่วนใหญ่ปรับตัวลง โดยตลาดหุ้น
ฟิลิปปินส์ร่วงลงเป็นสัปดาห์ที่ 2 ขณะที่นักลงทุนระบายหุ้นออกมาก่อนปิด
ทำการในวันนี้ ส่วนเวียดนามอ่อนตัวลง จากคำสั่งขายทำกำไรในการ
ซื้อขายที่เบาบาง
*วันนี้ตลาดหุ้นอินโดนีเซีย, มาเลเซีย, สิงคโปร์, ฟิลิปปินส์ และอินเดีย
ปิดทำการเนื่องในวันหยุดเทศกาลฮารีรายอของชาวมุสลิม
*ราคาน้ำมันดิบในตลาดล่วงหน้า NYMEX ส่งมอบเดือนก.ย.ปิดวานนี้
ร่วงลง 97 เซนต์ มาที่ 103.40 ดอลลาร์/บาร์เรล โดยราคาน้ำมัน
ร่วงลงเป็นวันที่ 5 ติดต่อกัน ขณะที่เทรดเดอร์และกองทุนระบายสถานะ
ซื้อออกมา อย่างไรก็ดี เมื่อราคาน้ำมันดิบร่วงลงไปแตะจุดต่ำสุดรอบ 1
เดือน เทรดเดอร์และกองทุนก็กลับเข้าซื้อสัญญาน้ำมันอีกครั้ง ส่งผลให้
ราคาน้ำมันลดช่วงติดลบกลับขึ้นมาได้บ้างในช่วงท้ายตลาด
*ดัชนีค่าระวางเรือ(Baltic Dry Index)ปิดวานนี้ ลบ 12 จุดหรือ
1.17% สู่ระดับ 1012 โดยระดับสูงสุดของปีนี้อยู่ที่ 1179 และระดับ
ต่ำสุดของปีนี้อยู่ที่ 698
*กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรก
เพิ่มขึ้น 5 พันรายมาที่ 3.33 แสนรายในสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 3 ส.ค.
นักเศรษฐศาสตร์ที่ได้รับการสำรวจโดยรอยเตอร์คาดไว้ว่า จำนวนผู้ขอรับ
สวัสดิการว่างงานครั้งแรกในสัปดาห์ที่ผ่านมาจะอยู่ที่ 3.36 แสนราย
*สำนักงานสถิติแห่งชาติของจีน (NBS) เปิดเผยว่าดัชนีราคาผู้บริโภค
(CPI) เพิ่มขึ้น 2.7% ในเดือนก.ค. เมื่อเทียบรายปี ซึ่งเท่ากับที่เพิ่มขึ้น
2.7% ในเดือนมิ.ย. และใกล้เคียงกับที่นักวิเคราะห์คาดไว้ที่ 2.8%
*ส่วนดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) ของจีนลดลง 2.3% ในเดือนก.ค.
เมื่อเทียบรายปี จากเดือนมิ.ย.ที่ลดลง 2.7% ขณะที่นักวิเคราะห์คาด
ไว้ว่าจะลดลง 2.2%
**เศรษฐกิจทั่วไป
*วันนี้หุ้นสหการประมูลAUCT เข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์
mai เป็นวันแรก โดยกำหนดราคา IPO หุ้นละ 2 บาท โดยมีบริษัท
ฟินเน็กซ์ แอ๊ดไวเซอรี่ จำกัด เป็นที่ปรึกษาทางการเงิน
*ธปท.คาดการปล่อยสินเชื่อของธนาคารพาณิชย์ ในไตรมาส Q3/56
จะชะลอตามภาวะเศรษฐกิจไทย แต่เชื่อว่า ทั้งปีนี้สินเชื่อน่าจะ เติบโต
ใกล้กับเป้าหมายที่ธนาคารต่างๆ ตั้งไว้จะโตเฉลี่ยที่ 13-14%
*แบงก์ชาติเตือนสัญญาณค้างชำระหนี้ในสินเชื่ออุปโภคบริโภคเริ่มชัดขึ้น
โดยเฉพาะสินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์ สะท้อนจากเริ่มมีคนค้างชำระหนี้ไม่เกิน
3 เดือนเพิ่มขึ้นถึง 6 หมื่นล้านบาทหรือคิดเป็น 6.8% จากไตรมาสก่อน
6.2% ขณะที่แบงก์กำไรลดลง 12.5% ในไตรมาส 2 เหตุเร่งกันสำรอง
หนี้เสียเพิ่มขึ้น ชี้แนวโน้มสินเชื่อแผ่วตามอุปสงค์ในประเทศและการส่งออก
ของไทย(นสพ.ASTVผู้จัดการรายวัน)
*กระทรวงพลังงานยอมรับไทยมีปัญหาด้านพลังงาน ทั้งน้ำมัน-ไฟฟ้า เหตุ
พึ่งพิงการนำเข้ามากขณะที่การจัดหาเริ่มยากขึ้น เร่งเรื่องพลังงานสีเขียว
เข้าเสริมทัพเหตุเป็นพลังงานในอนาคตแต่ยอมรับว่าต้องให้เหมาะสม ด้าน
ส.อ.ท.ชี้แผนพลังงานทดแทนจะทำให้เกิดการลงทุนเพิ่มขึ้น เป็นผลดีต่อ
เศรษฐกิจ (นสพ.ASTVผู้จัดการรายวัน)
*สศค.อยู่ระหว่างการประมาณการเศรษฐกิจใหม่ จากเดิมที่คาดว่าเศรษฐกิจ
จะขยายตัวได้แค่ 4-4.5% แต่เมื่อรัฐบาลมีมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ
ออกมาจะทำให้เศรษฐกิจขยายตัวได้ 5-5.5% (นสพ.โพสต์ทูเดย์)
*ธปท.ระบุสถาบันการเงินต่างประเทศจากเอเชียและออสเตรเลีย 5-6 ราย
เข้ามาหารือเงื่อนไขการขอใบอนุญาตในการจัดตั้งธนาคารพาณิชย์ลูก
รายใหม่ในประเทศไทย (นสพ.โพสต์ทูเดย์)
*"นิวัฒน์ธำรง"ระบุว่ากระทรวงพาณิชย์ยังคงเป้าหมายเดิมคือมีอัตราเติบโต
7-7.5% โดยสั่งการให้กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศและสำนักงาน
ส่งเสริมการค้าในประเทศ (ทูตพาณิชย์) เร่งผลักดันการส่งออกและพยุง
ยอดการส่งออกไม่ให้ลดลง โดยให้เน้นการส่งออกไปยังตลาดอาเซียนที่
เศรษฐกิจกำลังขยายตัวและประชาชนยังมีกำลังซื้อ(นสพ.มติชน)
**การเมือง
*ที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎรรับหลักการวาระแรก การพิจารณาร่าง
พ.ร.บ.นิรโทษกรรมแก่ผู้กระทำความผิดเนื่องจากการชุมนุมทางการเมือง
พร้อมตั้ง คณะกรรมาธิการวิสามัญ 35 คน ให้มีการแปรญัตติภาย
ใน 7 วัน
*โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เผยว่า นายกรัฐมนตรีได้ลงนามยกเลิก
ประกาศใช้ พระราชบัญญัติ(พ.ร.บ.)การรักษาความมั่นคงภายใน
ราชอาณาจักรแล้ว มีผลตั้งแต่วานนี้
*กลุ่มกองทัพประชาชนโค่นระบอบทักษิณ เผยว่าได้ประสานไปยังเครือข่าย
ของทุกกลุ่มที่เห็นด้วยกับการชุมนุมต่อต้านร่างกฎหมาย นิรโทษกรรม
ให้เข้ามาร่วมชุมนุมด้วย และขณะนี้ยังไม่มีกำหนดจะยุติการชุมนุมเมื่อใด
*"พล.ต.อ.ประชา" เผยว่า กลุ่มบีอาร์เอ็น ขอชะลอการพูดคุยสันติภาพ
ออกไปก่อน จนกว่าฝ่ายไทยจะให้ความชัดเจนในข้อเสนอ 5 ข้อ ที่ถาม
ไปก่อนหน้านี้ โดยในสัปดาห์หน้า จะนำเรื่องนี้เข้าหารือในที่ประชุม
ศปก.กปต.ซึ่งเชื่อว่าน่าจะมีข้อสรุป --จบ--
(โดย วิรัช บูรณกนกธนสาร เรียบเรียง--วพ--)
ที่มา doohon.com
No comments:
Post a Comment