Monday, March 4, 2013

ซิโน-ไทยฯ ส่อวืดประมูลสภาพบ'คุณสมบัติ'ขัดทีโออาร์ กำหนดเปิดซองราคา 6 มี.ค. นี้

ซิโน-ไทยฯ "ส่อวืด" ประมูลก่อสร้างอาคาร รัฐสภาแห่งใหม่ มูลค่า 1.2 หมื่นล้าน เหตุคุณสมบัติขัดเงื่อนไขทีโออาร์ พบอดีตบอร์ด พัวพันโครงการ ทั้งกำหนดร่างทีโออาร์เอกสารประมูล ให้คำแนะนำคัดเลือกว่าจ้างผู้ควบคุมงานและผู้รับเหมา เผยยื่นลาออกจากบริษัทก่อนกำหนดยื่นเอกสารเพียง 20 วัน พร้อมเปิดซองราคา 6 มี.ค.
สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร อยู่ระหว่างดำเนินโครงการก่อสร้างอาคารรัฐสภา แห่งใหม่ หรือ "สัปปายะสภาสถาน" บริเวณ ถนนทหารหรือเกียกกาย มูลค่า 12,287.46 ล้านบาท ซึ่งจะเป็นหนึ่งในแลนด์มาร์คที่สำคัญของกรุงเทพฯ โครงการนี้มีบริษัทผ่านการพิจารณาคุณสมบัติเบื้องต้น (พีคิว) จำนวน 4 ราย คือ 1.บริษัท ซิโน-ไทย เอ็นจีเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น จำกัด (มหาชน) 2.บริษัท อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ จำกัด (มหาชน) 3.บริษัท ซินเทค คอนสตรัคชั่น จำกัด (มหาชน) และ4.บริษัท เพาเวอร์ไลน์ เอ็นจิเนียริ่ง จำกัด (มหาชน)

โครงการดังกล่าวกำหนดเปิดซองข้อเสนอด้านราคาวันที่ 6 มี.ค. นี้ โดยบริษัท ซิโน-ไทยฯ ได้รับการคาดหมายว่า จะเป็นผู้ชนะการประกวดราคา เพราะน่าจะเสนอค่าก่อสร้างได้ต่ำกว่ารายอื่น ส่วนบริษัทอิตาเลียนไทยฯ น่าจะให้ความสำคัญกับโครงการก่อสร้างท่าเรือน้ำลึกและนิคมอุตสาหกรรมทวาย รวมทั้งโครงการก่อสร้างรถไฟฟ้าเป็นหลัก ส่วนบริษัทซินเทคฯ แม้จะมีความเชี่ยวชาญงานด้านอาคาร แต่อาจไม่กล้ากดราคามากนัก เช่นเดียวกับบริษัทเพาเวอร์ไลน์ฯ
แหล่งข่าวจากสภาผู้แทนราษฎร กล่าวว่า คณะกรรมการว่าด้วยการพัสดุของส่วนราชการสังกัดรัฐสภา (กวพ.รส.) ซึ่งมี นายสุวิจักขณ์ นาควัชระชัย เลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร เป็นประธาน ควรพิจารณาคุณสมบัติของผู้เสนอราคาทั้ง 4 รายอย่างรอบคอบ โดยเฉพาะคุณสมบัติของบริษัทซิโน-ไทยฯ เพราะเงื่อนไขทีโออาร์ ระบุคุณสมบัติของผู้เสนอราคาไว้ชัดเจนว่า ต้องไม่เป็นบุคคลหรือนิติบุคคลที่อยู่ในคณะผู้ออกแบบโครงการ ที่ปรึกษาบริหารโครงการ หรือที่ปรึกษาควบคุมงานก่อสร้าง และต้องไม่เป็นหรือเคยเป็นกรรมการหรืออนุกรรมการในคณะกรรมการ หรือคณะอนุกรรมการที่เกี่ยวข้องกับงานก่อสร้างโครงการนี้
จากการตรวจสอบเบื้องต้นพบว่า หนึ่งในกรรมการบริษัท ซิโน-ไทยฯ คือ พันโททวีสิน รักกตัญญู อดีตผู้ว่าการการทางพิเศษแห่งประเทศ ไทย (กทพ.) มีส่วนเกี่ยวข้องกับโครงการก่อสร้างดังกล่าว โดยพันโททวีสิน ได้รับการแต่งตั้งจากผู้ถือหุ้นซิโน-ไทยฯ ให้เป็นกรรมการบริษัทตั้งแต่ วันที่ 19 เม.ย. 2555 ยังเป็นหนึ่งในกรรมการบริหาร ของซิโน-ไทยฯ ด้วย โดยพันโททวีสิน ได้ขอ ลาออกจากการเป็นกรรมการซิโน-ไทยฯ เมื่อ วันที่ 31 ม.ค. 2556
อดีตบอร์ดเอี่ยวโครงการก่อสร้าง
ทั้งนี้ จากการตรวจสอบเอกสารพบว่า พันโททวีสิน มีส่วนเกี่ยวข้องในโครงการก่อสร้างอาคารรัฐสภาตั้งแต่ช่วงเดือนก.พ. 2554 หรือก่อนจะได้รับการแต่งตั้งเป็นกรรมการบริษัทซิโน-ไทยฯ โดยเป็นหนึ่งในคณะกรรมการให้คำปรึกษาในการจ้างที่ปรึกษาบริหารโครงการและควบคุมงานก่อสร้างอาคารรัฐสภาแห่งใหม่ ซึ่งคณะกรรมการชุดนี้มีนายนิคม ไวยรัชพานิช ขณะนั้นดำรงตำแหน่งรองประธานวุฒิสภาคนที่หนึ่งเป็นประธาน และพันโททวีสิน ยังเป็นหนึ่งในคณะกรรมการกำหนดร่างทีโออาร์และร่างเอกสารการประกวดราคา คณะกรรมการชุดนี้มีนายจเร พันธุ์เปรื่อง รองเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎรเป็นประธาน
ล่าสุดพันโททวีสิน ได้รับการแต่งตั้งจากนาย สมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์ ประธานรัฐสภา เมื่อวันที่ 31 ก.ค. 2555 ให้เป็นหนึ่งในคณะกรรมการให้คำปรึกษาและประสานงานในการกำกับดูแลโครงการก่อสร้างอาคารรัฐสภาแห่งใหม่ โดยคณะกรรมการชุดนี้มี นายนิคม ไวยรัชพานิช เป็นประธาน หนึ่งในภารกิจที่ได้รับมอบหมายคือ การให้คำปรึกษาและแนะนำการคัดเลือกการจ้างผู้ควบคุม และผู้รับจ้างก่อสร้างอาคารรัฐสภาแห่งใหม่ให้เป็นไปตามระเบียบ
"โครงการนี้เปิดขายเอกสารประกวดราคาตั้งแต่วันที่ 15-24 ม.ค. 2556 กำหนดให้ยื่นเอกสาร ประกวดราคาวันที่ 20 ก.พ. ที่ผ่านมา แม้ว่าพันโท ทวีสิน จะลาออกจากการเป็นกรรมการซิโน-ไทยฯ เมื่อวันที่ 31 ม.ค. 2556 หรือก่อนวันยื่นเอกสารประกวดราคา แต่ถือว่าพันโททวีสิน มีส่วนเกี่ยว ข้องกับโครงการก่อสร้างรัฐสภาใหม่อย่างแน่นอน" แหล่งข่าวระบุ
แนะรอบคอบป้องกันถูกฟ้องร้อง
อย่างไรก็ตาม คณะกรรมการว่าด้วยการพัสดุฯ ซึ่งมี นายสุวิจักขณ์ เป็นประธาน จะต้องพิจารณาว่าการที่กรรมการคนหนึ่งของซิโน-ไทยฯ มีส่วนเกี่ยวข้องกับโครงการในลักษณะนี้ ถือว่าซิโน-ไทยฯ ผิดเงื่อนไขเรื่องคุณสมบัติของผู้เสนอราคาหรือไม่ ต้องมีเหตุผลชี้แจงอย่างชัดเจน เพื่อป้องกันปัญหาการฟ้องร้องในอนาคต เพราะพันโททวีสิน ลาออกก่อนถึงกำหนดยื่นเอกสารประกวดราคาเพียง 20 วันเท่านั้น
แหล่งข่าวยังกล่าวอีกว่า หาก ซิโน-ไทยฯ ได้รับการเปิดซองราคา มีความเป็นไปได้สูงที่ผู้เสนอราคารายอื่นอาจยื่นฟ้องผู้รับผิดชอบ เพราะเห็นว่าไม่ได้รับความเป็นธรรม ซึ่งจะส่งผลให้โครงการก่อสร้างอาคารรัฐสภาใหม่เกิดความล่าช้ามากยิ่งขึ้น
สำหรับคณะกรรมการว่าด้วยการพัสดุฯ นอกจากจะมีนายสุวิจักขณ์ เป็นประธาน ยังมีผู้ทรงคุณวุฒิอื่นๆ เช่น นายจุลสิงห์ วสันตสิงห์ อัยการสูงสุด นายอารีพงศ์ ภู่ชอุ่ม ปลัดกระทรวงการคลัง นายรังสรรค์ ศรีวรศาสตร์ อธิบดีกรมบัญชีกลาง นางนรรัตน์ พิมเสน เลขาธิการวุฒิสภา นางสาว ประพีร์ อังกินันทน์ รองผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดิน นายคำนวณ ชโลปถัมภ์ นักกฎหมาย
ทั้งนี้ สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร เปิดขายเอกสารประกวดราคาโครงการก่อสร้างอาคารรัฐสภาแห่งใหม่ พื้นที่ใช้สอย 4.24 แสนตารางเมตร ตั้งแต่วันที่ 15-24 ม.ค. 2556 และเปิดให้ผู้ซื้อเอกสารรับฟังคำชี้แจงรายละเอียดเพิ่มเติม พร้อมพาดูสถานที่ก่อสร้างในวันที่ 25 ม.ค. 2556 กำหนดยื่นซองประกวดราคาวันที่ 20 ก.พ. 2556 และกำหนดเปิดซองใบเสนอราคาวันที่ 6 มี.ค. นี้ คาดว่าจะลงนามว่าจ้างผู้ชนะการประกวดราคาในวันที่ 28 มี.ค. 2556 โดยผู้รับจ้างต้องก่อสร้างอาคารรัฐสภาความสูง 11 ชั้น และอาคารประกอบอื่นๆ ให้แล้วเสร็จภายในเวลา 900 วัน--จบ--

ที่มา: หนังสือพิมพ์กรุงเทพธุรกิจ

No comments:

Post a Comment