Sunday, January 6, 2013

โอบามาลั่นเดินหน้าผลักดันการเพิ่มเพดานหนี้เต็มสูบ


ล่าสุดผู้นำสหรัฐลั่นเดินหน้าผลักดันการเพิ่มเพดานหนี้เต็มสูบ ขณะที่คาดจะประกาศตำแหน่งด้านความมั่นคงที่สำคัญในสัปดาห์นี้
บารัก โอบามาประธานาธิบดีสหรัฐฯ กล่าวว่า จะเดินหน้าเรียกร้องให้รัฐสภาขยายเพดานเงินกู้ของรัฐบาลขึ้นอีก จากเดิม ซึ่งกำหนดไว้ที่ 16.4 ล้านล้านดอลลาร์ และเมื่อวันที่ 31 ธ.ค. ที่ผ่านมา กระทรวงการคลังสหรัฐ ได้ออกมาระบุว่า มูลหนี้ของรัฐบาลได้แตะเพดานดังกล่าวไปแล้ว และหากไม่สามารถกู้เงินได้ รัฐบาลก็จะไม่มีเงินสำหรับใช้จ่าย ซึ่งผู้นำสหรัฐ ระบุว่า จะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจโลกทั้งหมด

ปธน.โอบามา ได้เรียกร้องให้นักการเมืองทั้งฝ่ายรัฐบาลและรีพับลิกัน ให้ความสำคัญกับประเทศชาติมากกว่าผลประโยชน์ทางการเมือง และเสริมว่า การต่ออายุมาตรการลดภาษีชนชั้นกลางและลดรายจ่ายของรัฐ เป็นเพียงก้าวหนึ่งของการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจสหรัฐเท่านั้น
เมื่อปลายสัปดาห์ที่แล้ว การประกาศลาออกของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังคนปัจจุบันของสหรัฐ "ทิโมธี ไกธเนอร์" ทำให้หลายฝ่ายคาดกันว่า จะทำให้รัฐบาลโอบามาอาจต้องเจอกันศึกหนักกับสภาคองเกรสในอีก 2 เดือนข้างหน้าในการอภิปรายเพื่อปรับเพดานหนี้ขึ้น
นักวิเคราะห์ เผยว่า สถานการณ์เศรษฐกิจสหรัฐในขณะนี้ต้องการมือวางอันดับหนึ่งเพื่อสะสางปัญหาการคลัง และนายไกธเนอร์ ก็ถือเป็นมือหนึ่งของรัฐบาล โอบามา ที่คอยรับมือกับวิกฤติการเงิน และปีที่แล้วยังรับบทต่อรองอย่างถึงพริกถึงขิงกับสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรพรรครีพับลิกันเพื่อขอขยับเพดานหนี้
อย่างไรก็ดี แม้ทำเนียบขาวจะยังปิดปากเงียบเกี่ยวกับผู้ที่จะมาทำหน้าที่แทนนายไกธเนอร์ แต่มีรายข่าวออกมาว่า หัวหน้าทำเนียบขาว "จาค็อบ เจค ลิว" เป็นหนึ่งในตัวเต็งที่น่าจะได้รับเลือกมาเป็นคู่คิดด้านเศรษฐกิจคนใหม่ของผู้นำสหรัฐ
โดยลิว เคยเป็นผู้อำนวยการสำนักงานบริหารและงบประมาณของทั้งปธน.โอบามา และอดีตปธน.บิล คลินตัน อีกทั้งยังมีบทบาทสำคัญในการเจราเรื่องเพดานหนี้เมื่อปี 2554 แต่ผู้นำในสภาคองเกรสของรีพับลิกันไม่ค่อยถูกชะตากับลิวมากนัก
ขณะเดียวกัน ยังไม่เป็นที่ชัดเจนว่า ปธน.โอบามา จะเลือกใครมาเป็นผู้นำในการเจรจาเรื่องการปรับลดงบประมาณที่กำลังจะมาถึงในอีก 2 เดือนข้างหน้า ซึ่งหลายฝ่าย คาดว่า อาจจะเป็นรองปธน."โจ ไบเดน" อัศวินม้าขาวที่นำทีมเจรจากับรีพับลิกันจนพาประเทศรอดพ้นการตกหน้าผาการคลังมาอย่างเฉียดฉิว หรืออาจจะเป็น"ร็อบ เนบอร์ส" ผู้ประสานงานหลักกับคองเกรสของทำเนียบขาว
พร้อมกันนี้ มีการคาดกันว่า ในสัปดาห์นี้ ผู้นำสหรัฐ จะประกาศรายชื่อผู้ที่จะเข้ามาดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีกลาโหม และผู้อำนวยการซีไอโอ โดยตัวเก็งที่คาดว่า จะได้นั่งว่าการกระทรวงกลาโหมของสหรัฐ คือ อดีตวุฒิสมาชิกพรรครีพับลิกันจากรัฐเนบราสกา “ชัค เฮเกิล" ส่วนเก้าอี้หัวหน้าซีไอเอ คาดว่า จะเป็น"ไมเคิล มอเรลล์" ที่เป็นรักษาการผู้อำนวยการซีไอเออยู่ในขณะนี้ และ"จอห์น เบนแนน" ที่ปรึกษาหน่วยต่อต้านการก่อการร้าย

No comments:

Post a Comment