Monday, August 6, 2012

สรุปข่าวเศรษฐกิจรอบโลก 7 สค 55

ภาวะตลาดหุ้นประจำวันที่ 6 ส.ค. 

ดัชนี-ตลาด ปิดที่ระดับ เปลี่ยนแปลง 

ดาวโจนส์-ตลาดหุ้นนิวยอร์ค 13,117.51 + 21.34 
FTSE-ตลาดหุ้นลอนดอน 5,808.77 + 21.49 
DAX-ตลาดหุ้นเยอรมนี 6,918.72 + 53.06 
CAC-40-ตลาดหุ้นฝรั่งเศส 3,401.56 + 27.37 
คอมโพสิต-ตลาดหุ้นมะนิลา 5,284.16 - 1.75 
เวทเต็ด-ตลาดหุ้นไต้หวัน 7,286.33 + 68.82 
S&P/ASX-ตลาดหุ้นออสเตรเลีย 4,272.60 + 51.10 
นิกเกอิ-ตลาดหุ้นโตเกียว 8,726.29 + 171.18 
คอมโพสิต-ตลาดหุ้นโซล 1,885.88 + 37.20 
ฮั่งเส็ง-ตลาดหุ้นฮ่องกง 19,998.72 + 332.54 
คอมโพสิต-ตลาดหุ้นมาเลเซีย 1,639.43 + 4.39 
FTSE STI-ตลาดหุ้นสิงคโปร์ 4,105.49 + 5.68 
คอมโพสิต-ตลาดหุ้นจาการ์ตา 3,071.82 + 20.49 
SET-ตลาดหุ้นไทย 1,208.01 + 10.48 
SET-50-ตลาดหุ้นไทย 833.52 + 8.05 
SET-100-ตลาดหุ้นไทย 1,815.38 + 16.94 

ราคาพันธบัตรปิดบวกก่อนประมูล -- ราคาพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐปิดเพิ่มขึ้นในวันจันทร์ 
ก่อนการประมูลขายพันธบัตรในสัปดาห์นี้ ซึ่งอาจตอกย้ำว่านักลงทุนมีความเต็มใจมากเพียงใดใน 
การซื้อสินทรัพย์ปลอดภัยท่ามกลางความไม่แน่นอนของตลาดทั่วโลก ทั้งนี้ ราคาพันธบัตรอายุ 10 
ปีปิดบวก 03/32 สู่ระดับ 101-23/32 โดยมีผลตอบแทน 1.560% และราคาพันธบัตรอายุ 30 
ปีปิดบวก 01/32 สู่ระดับ 107-07/32 โดยมีผลตอบแทน 2.648% 

ยูโรแข็งค่ารับความหวังอีซีบีซื้อบอนด์ยุโรป -- ยูโรปรับตัวขึ้นเมื่อเทียบกับดอลลาร์ใน 
วันจันทร์ โดยปรับตัวขึ้นต่อจากวันศุกร์จากความหวังว่า ธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) จะดำเนิน 
มาตรการเพื่อลดต้นทุนการกู้ยืมของสเปนและอิตาลี ทั้งนี้ ดอลลาร์อยู่ที่ 78.200 เยน เทียบกับ 
ระดับปิดตลาดวันศุกร์ที่ 78.450 เยน ส่วนยูโรอยู่ที่ 1.2402 ดอลลาร์และ 96.980 เยน เทียบ 
กับระดับปิดตลาดวันศุกร์ที่ 1.2385 ดอลลาร์และ 97.170 เยน 

น้ำมันดิบปรับขึ้นตามตลาดหุ้น -- ราคาน้ำมันดิบในตลาดล่วงหน้า NYMEX ปิดปรับขึ้นเป็น 
วันที่สองติดต่อกันในวันจันทร์ โดยได้รับแรงหนุนจากการปรับขึ้นของตลาดหุ้นและจากภาวะปั่นป่วน 
วุ่นวายในตะวันออกกลาง ซึ่งส่งผลให้ค่าพรีเมียมความเสี่ยงเพิ่มสูงขึ้น ทั้งนี้ ราคาน้ำมันดิบส่งมอบ 
เดือนก.ย.ปรับขึ้น 80 เซนต์ หรือ 0.9% มาปิดตลาดที่ 92.20 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล 

ทองปรับขึ้นตามตลาดหุ้น,ราคาน้ำมันดิบ -- ราคาทองสปอตที่ตลาดสหรัฐปรับขึ้น 9.56 
ดอลลาร์ หรือ 0.6% สู่ 1,612.56 ดอลลาร์/ออนซ์ในช่วงท้ายตลาดวันจันทร์ โดยได้รับแรงหนุน 
จากการปรับขึ้นของตลาดหุ้นสหรัฐและราคาน้ำมันดิบ อย่างไรก็ดี วอลุ่มการซื้อขายในวันจันทร์ถือ 
เป็นหนึ่งในวอลุ่มการซื้อขายที่ต่ำที่สุดของปีนี้ และสะท้อนให้เห็นว่านักลงทุนไม่มั่นใจในมาตรการผ่อน 
คลายทางการเงินของธนาคารกลาง ทั้งนี้ ราคาทองส่งมอบเดือนธ.ค.ที่ตลาด COMEX ปิดพุ่งขึ้น 
6.90 ดอลลาร์ ที่ 1,616.20 ดอลลาร์/ออนซ์ และราคาโลหะเงินส่งมอบเดือนก.ย.ปิดบวก 
6.20 เซนต์ ที่ 27.863 ดอลลาร์/ออนซ์ ส่วนที่ตลาด NYMEX ราคาพลาตินั่มส่งมอบเดือนต.ค. 
ปิดลดลง 12.50 ดอลลาร์ ที่ 1,401.90 ดอลลาร์/ออนซ์ และราคาพัลลาเดียมส่งมอบเดือน 
ก.ย.ปิดบวก 1.35 ดอลลาร์ ที่ 579.55 ดอลลาร์/ออนซ์

SET:ปัจจัยจับตาการลงทุนวันนี้ ตลาดหุ้นสหรัฐและราคาน้ำมันดิบปิดปรับขึ้น 


ต่างประเทศ 

*ตลาดหุ้นสหรัฐปิดที่ระดับสูงสุดในรอบ 3 เดือนเป็นวันที่สองติดต่อกันในวันจันทร์ 
โดยทะยานขึ้นต่อจากสัปดาห์ที่ผ่านมา จากความหวังเกี่ยวกับการให้ความช่วยเหลือ 
มากขึ้นสำหรับยูโรโซนที่ประสบปัญหา โดยดัชนีดาวโจนส์ ปิดบวก 0.16% 
*วานนี้ ตลาดหุ้นเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ส่วนใหญ่ปรับขึ้น ขานรับการเปิดเผย 
ตัวเลขการจ้างงานของสหรัฐที่เพิ่มขึ้นมากกว่าที่คาดไว้ และความคาดหวังที่ว่า 
ทางการยุโรปจะดำเนินการเพื่อแก้ไขวิกฤติหนี้ ส่งผลให้ตลาดหุ้นสิงคโปร์พุ่งขึ้น 
แตะระดับสูงสุดในรอบ 1 ปี ขณะที่อินโดนีเซีย, มาเลเซีย และ เวียดนาม 
ปรับขึ้นเช่นกัน แต่ฟิลิปปินส์ ปิดในแดนลบ 
*ราคาน้ำมันดิบในตลาดล่วงหน้า NYMEX ส่งมอบเดือนก.ย.ปิดวานนี้ ปรับขึ้น 80 เซนต์ 
หรือ 0.9% ปิดที่ 92.20 ดอลลาร์/บาร์เรล โดยได้แรงหนุนจากการปรับขึ้นของตลาด 
หุ้นและจากภาวะปั่นป่วนวุ่นวายในตะวันออกกลาง ซึ่งส่งผลให้ค่าพรีเมียมความ 
เสี่ยงเพิ่มสูงขึ้น 
*ดัชนีค่าระวางเรือ(Baltic Dry Index) ปิดวานนี้ ลบ 9 จุด หรือ 1.06% สู่ 
ระดับ 843 โดยระดับสูงสุดของปีนี้อยู่ที่ 1624 และระดับต่ำสุดของปีนี้อยู่ที่ 647 

เศรษฐกิจทั่วไป 

*ธ.กสิกรไทย คาดภาคธุรกิจจะมีการลงทุนทั้งในและต่างประเทศ มูลค่ากว่า 8 แสนลบ. 
ในช่วง 1 ปีจากนี้ ซึ่งจะเป็นโอกาสขยายงานของธนาคาร โดยวางเป้างานวาณิชธนกิจ 
จะมีมูลค่าโตกว่า 35% ในอีก 3 ปีข้างหน้า 
*ตลาดสินค้าเกษตรล่วงหน้าแห่งประเทศไทย เตรียมเปิดซื้อขายสัญญาล่วงหน้าสับปะรด 
กระป๋อง โดยจับกลุ่มเป้าหมายโรงงานผลิตสับปะรดกระป๋องทั่วประเทศ ซึ่งจะใช้ 
สินค้าดังกล่าวในการประกันความเสี่ยง และสร้างอำนาจต่อรองกับผู้ซื้อในตลาดโลก 
*คณะอนุกรรมการพิจารณาโครงการตามมาตรการส่งเสริมการลงทุนเพื่อฟื้นฟูการลงทุน 
จากวิกฤตอุทกภัย ครั้งที่ 4 ของบีโอไอ อนุมัติส่งเสริมลงทุนตามมาตรการดังกล่าว 
รวม 24 โครงการ เงินลงทุนรวม 1.34 หมื่นล้านบาท 
*รมว.พาณิชย์ เผยรัฐบาลยังจะเดินหน้าโครงการรับจำนำข้าวต่อไป แม้ช่วงที่ผ่านมา 
รัฐบาลต้องรับผลขาดทุนจากโครงการดังกล่าวบ้าง โดยยังเชื่อว่า ปีนี้การส่งออก 
ข้าวจะทำได้ตามเป้าหมายที่ 8.5-9.0 ล้านตัน 
*วันนี้ปตท.ปรับขึ้นราคาขายปลีกน้ำมันกลุ่มเบนซิน 50-60 สตางค์/ลิตร โดยเป็นการ 
ปรับขึ้นราคากลุ่มแก๊สโซฮอล์ 50 สตางค์/ลิตร และขึ้นราคาน้ำมันเบนซิน 60 สตางค์ 
/ลิตร ส่งผลให้ราคาน้ำมันเบนซิน ออกเทน 91 ทะลุระดับ 44 บาท/ลิตร 
*"ยงยุทธ"ส่งหนังสือแจงดีเอสไอ ยันไม่เคยอนุมัติกทม.ขยายสัมปทาน "บีทีเอส" 
ย้ำกิจการรถไฟฟ้าเป็นสาธารณูปโภค ห้ามผู้ใดค้าขายโดยไม่ได้รับอนุญาตจาก 
รมว.มหาดไทย เตรียมชงบอร์ด กคพ. ชุดใหม่ รับเป็นคดีพิเศษหลัง 7 ก.ย.55 
(นสพ.กรุงเทพธุรกิจ) 
*แบงก์ชาติ ระบุ "กรีซ"เสี่ยงสูงออกจากยูโรโซนในปีหน้า คาดกระทบเศรษฐกิจกลุ่ม 
ประเทศคู่ค้าหดตัวลง 3% ฉุดเศรษฐกิจไทยเหลือโต 2.5% จากสมมติฐานปกติ 5% เชื่อ 
วิกฤติยุโรปไม่เลวร้ายเท่าซับไพร์ม ขณะที่นักเศรษฐศาสตร์เยอรมนี ย้ำอาเซียน 
ไม่จำเป็นต้องเดินตามระบบการเงินยูโรโซน แนะ 5 บทเรียนอาเซียนจากวิกฤติยุโรป 
(นสพ.กรุงเทพธุรกิจ) 
*คณะทำงาน กสท ย้ำชัดเหตุเลิกสัญญา 3จี-ทรู ชงบอร์ดเลิกสัญญาเป็นทางการ 8 ส.ค. 
นี้ ระบุขัดกฎหมาย ส่งผลให้สัญญาเป็น"โมฆะ" ต้องยกเลิกสถานเดียว เขียนแก้ไขบาง 
ข้อไม่ได้ แจงสถานะบีเอฟเคที ไม่มีคุณสมบัติสร้างเสาสถานีฐาน เพราะขาดไลเซ่น 
ประเภท 3 เผยตัวเลขสัญญาเดิม 14 ปีครึ่งทำ ทรู รวยมหาศาลเฉียด 2 แสนล้านบาท 
(นสพ.กรุงเทพธุรกิจ) 
*การประชุมครม.วันนี้ กระทรวงการคลังจะเสนอให้พิจารณาอนุมัติหลักการร่าง พ.ร.ฎ. 
ว่าด้วยการลดอัตราภาษีมูลค่าเพิ่ม ที่ปัจจุบันจัดเก็บในอัตรา 7% ออกไปอีก 2 ปี 
และให้ปรับขึ้นมาจัดเก็บในอัตรา 9% ในปี 57 เพื่อให้ประชาชนมีกำลังซื้อในการ 
จับจ่ายใช้สอย และให้การบริโภคและลงทุนกลับสู่ปกติหลังเหตุการณ์น้ำท่วมปี 54-55 
(นสพ.โพสต์ทูเดย์) 

การเมือง 

*ประธานวิป พรรคร่วมรัฐบาล ระบุว่า วิปรัฐบาลมีความเห็นตรงกันว่า จากนี้ไปอย่าง 
น้อยอีกหนึ่งเดือน จะยังไม่มีการพิจารณาร่างพ.ร.บ.ว่าด้วยความปรองดองแห่งชาติ 
เนื่องจากต้องมีการพิจารณาเรื่องของ พ.ร.บ.งบประมาณปี 56 วาระ 2 และ 3 
รวมถึงกฎหมายสำคัญอื่นๆ อาทิ กฎหมายฟอกเงิน และการก่อการร้าย 
*กรุงเทพโพลล์ เผยผลสำรวจความเห็นประชาชน ให้คะแนนการปฏิบัติหน้าที่ 1 ปีของ 
นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตรในฐานะนายกรัฐมนตรี 5.31 คะแนน จากเต็ม 10 คะแนน 
เพิ่มขึ้นจาก 5.29 คะแนน ในการประเมินผลงานช่วงครบ 6 เดือน สำหรับคะแนน 
ความพึงพอใจการทำงานของรัฐบาล ผลสำรวจพบว่า ประชาชนให้ 4.84 คะแนน 
*"อภิสิทธิ์" เล็งใช้เวทีสภาถล่มรัฐบาล 3 วาระ "อภิปรายงบ 56-แถลงผลงาน1 ปี- 
ซักฟอก" ด้าน "เฉลิม" เชื่อนายกฯ ชี้แจงอภิปรายไม่ไว้วางใจได้ ไม่จำเป็นต้องตั้ง 
องครักษ์ เตือน ปชป.ระวังถูกน็อคกลับ "วุฒิสภา"เคาะเลือกประธานคนใหม่ 14 ส.ค. 
(นสพ.กรุงเทพธุรกิจ) 
*"สุรพงษ์" เผยปลัด บัวแก้วเชิญ "ทูตประเทศมุสลิม" ถกปัญหาใต้ เสนอนายกฯ 
"พัลลภ"กระตุ้นทหารสู้คนร้าย แนะปรับยุทธวิธีลาดตระเวน ด้าน ทอ.เล็งใช้เครื่องบิน 
เอยู 23 บินสำรวจก่อนทหารออกพื้นที่ "เฉลิม" เผย 40 ผู้ต้องหาความไม่สงบเตรียม 
เข้ามอบตัว(นสพ.กรุงเทพธุรกิจ)

SET:คาดหุ้นไทยวันนี้แกว่งกรอบแคบ ถูกกดดันด้วยผลประกอบการกลุ่มหลักที่แย่ลง 


*นักวิเคราะห์หลักทรัพย์ คาดตลาดหุ้นไทยวันนี้ จะแกว่งในกรอบแคบ หลังปัจจัย 
จากต่างประเทศไม่มีผลชี้นำตลาดมากนัก ขณะที่ปัจจัยภายในประเทศ เรื่อง 
ผลประกอบการที่ทยอยประกาศออกมาเป็นหลัก ซึ่งกลุ่มหลักอย่างพลังงาน 
ปิโตรเคมี จะออกมาไม่ดี ส่งผลกดดันตลาด 
*ตลาดหุ้นสหรัฐปิดที่ระดับสูงสุดในรอบ 3 เดือนเป็นวันที่สองติดต่อกันในวันจันทร์ 
โดยทะยานขึ้นต่อจากสัปดาห์ที่ผ่านมา จากความหวังเกี่ยวกับการให้ความช่วยเหลือ 
มากขึ้นสำหรับยูโรโซนที่ประสบปัญหา โดยดัชนีดาวโจนส์ ปิดบวก 0.16% 
*ราคาน้ำมันดิบในตลาดล่วงหน้า NYMEX ส่งมอบเดือนก.ย.ปิดวานนี้ ปรับขึ้น 
80 เซนต์ หรือ 0.9% ปิดที่ 92.20 ดอลลาร์/บาร์เรล โดยได้แรงหนุนจาก 
การปรับขึ้นของตลาดหุ้น และจากภาวะปั่นป่วนวุ่นวายในตะวันออกกลาง 
ซึ่งส่งผลให้ค่าพรีเมียมความเสี่ยงเพิ่มสูงขึ้น 
*วันจันทร์ ต่างชาติซื้อสุทธิ 819.89 ลบ.จากวันศุกร์ซื้อสุทธิ 218.92 ลบ. 
*เช้านี้บาท/ดอลลาร์ อยู่ที่ 31.44/48 เมื่อวันจันทร์ อยู่ที่ 31.48/52 
*นักวิเคราะห์มองแนวรับที่ 1,200 ส่วนแนวต้านที่ 1,212 จุด 

"ตลาดวันนี้ เรามองแกว่งในกรอบแคบ factor จากต่างประเทศ ก็ไม่ค่อยมี 
อะไร ดังนั้นปัจจัยจะเป็นเรื่องของภายในประเทศเป็นหลัก" นายเทิดศักดิ์ ทวีธีระธรรม 
ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายวิเคราะห์ บล.เอเซีย พลัส กล่าว 
เขา กล่าวว่า ผลประกอบการไตรมาส 2/55 ของบริษัทจดทะเบียน ที่ทยอย 
ประกาศในช่วงนี้ คาดว่ากลุ่มหลักๆ ไม่ว่าจะเป็นกลุ่มพลังงาน และปิโตรเคมี จะอ่อนตัวลง 
จากการบันทึกการขาดทุนจากสต็อคน้ำมัน ซึ่งจะเป็นปัจจัยกดดันให้ตลาดมีทิศทางที่ปรับลงได้ 

ดัชนีตลาดหุ้นสำคัญ 

*ดัชนีตลาดหลักทรัพย์เมื่อวันจันทร์ ปิดบวก 10.48 จุด หรือ 0.88% มาที่ 
1,208.01 ด้วยมูลค่าการซื้อขายที่ 23,422.38 ล้านบาท 
*ดัชนีอุตสาหกรรมดาวโจนส์เมื่อวันจันทร์ ปิดบวก 21.34 จุด หรือ 0.16% มาที่ 
13,117.51 และดัชนีแนสแดค ปิดบวก 22.01 จุด หรือ 0.74% มาที่ 2,989.91 
*ตลาดหุ้นในภูมิภาคเช้านี้ ส่วนใหญ่บวก โดยตลาดหุ้นสิงคโปร์ บวก 0.43%, ญี่ปุ่น 
บวก 0.52%, เกาหลีใต้ บวก 0.19%, ไต้หวัน บวก 0.14% และตลาดหุ้นฮ่องกง 
บวก 0.44% 

จับตาหุ้น 

*TICON ออก TSR 97.63 ล้านหน่วยให้ฟรีผู้ถือหุ้นเดิม 8:1,ขายรง.ให้ TFUND 
*KBANK คาดภาคธุรกิจลงทุนกว่า 8 แสนลบ.ช่วง 1 ปี,รุกตลาดวาณิชธนกิจ 
*TNITY ปฏิเสธข่าวนักลงทุนตปท.ติดต่อร่วมทุน,ราคาหุ้นร่วงสวนตลาด 
*AAV คาดรายได้ปีนี้โต 20% จากปีก่อน,เคบิน แฟคเตอร์ ใกล้เคียงปีก่อน 
*SNC ตั้งเป้ากำไรสุทธิปีนี้โต 20% ธุรกิจชิ้นส่วนรถยนต์ช่วยหนุน 
*PSL คงเป้าค่าระวางเรือปีนี้ที่ $7,150 ต่อวันต่อลำ,มองยังต่ำอีก 2 ปี

No comments:

Post a Comment