ดัชนี-ตลาด ปิดที่ระดับ เปลี่ยนแปลง
ดาวโจนส์-ตลาดหุ้นนิวยอร์ค 12,721.46 - 101.11
FTSE-ตลาดหุ้นลอนดอน 5,533.87 - 117.90
DAX-ตลาดหุ้นเยอรมนี 6,419.33 - 210.69
CAC-40-ตลาดหุ้นฝรั่งเศส 3,101.53 - 92.36
คอมโพสิต-ตลาดหุ้นมะนิลา 5,139.40 - 71.49
เวทเต็ด-ตลาดหุ้นไต้หวัน 7,028.73 - 135.95
S&P/ASX-ตลาดหุ้นออสเตรเลีย 4,128.90 - 70.20
นิกเกอิ-ตลาดหุ้นโตเกียว 8,508.32 - 161.55
คอมโพสิต-ตลาดหุ้นโซล 1,789.44 - 33.49
ฮั่งเส็ง-ตลาดหุ้นฮ่องกง 19,053.47 - 587.33
คอมโพสิต-ตลาดหุ้นมาเลเซีย 1,636.17 - 6.83
FTSE STI-ตลาดหุ้นสิงคโปร์ 2,982.49 - 33.04
คอมโพสิต-ตลาดหุ้นจาการ์ตา 4,009.79 - 71.40
SET-ตลาดหุ้นไทย 1,185.11 - 23.44
SET-50-ตลาดหุ้นไทย 818.43 - 18.56
SET-100-ตลาดหุ้นไทย 1,782.02 - 39.07
วิกฤติอียูหนุนพันธบัตรปิดพุ่ง -- อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐร่วงแตะระดับต่ำสุด
ใหม่เป็นประวัติการณ์ในวันจันทร์ ขณะที่ความวิตกว่า วิกฤติหนี้ของยูโรโซนจะลุกลามจนควบคุมไม่อยู่นั้น
ทำให้นักลงทุนพากันเข้าซื้อพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ ในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย ทั้งนี้ ราคาพันธบัตรอายุ
10 ปีปิดบวก 06/32 สู่ระดับ 102-27/32 โดยมีผลตอบแทน 1.438% และราคาพันธบัตรอายุ 30
ปีปิดพุ่งขึ้น 22/32 สู่ระดับ 110-04/32 โดยมีผลตอบแทน 2.515%
ยูโรร่วงจากวิตกปัญหาสเปน,มูดี้ส์ปรับแนวโน้มเครดิตเยอรมนี -- ยูโรร่วงลงสู่ระดับต่ำสุด
ในรอบ 2 ปีเมื่อเทียบกับดอลลาร์และต่ำสุดในรอบเกือบ 12 ปีเมื่อเทียบกับเยนในวันจันทร์จากความ
วิตกว่าสเปนใกล้ที่จะต้องขอรับความช่วยเหลืออย่างเต็มที่ ทั้งนี้ ดอลลาร์อยู่ที่ 78.360 เยน เทียบกับ
ระดับปิดตลาดวันศุกร์ที่ 78.450 เยน ส่วนยูโรอยู่ที่ 1.2117 ดอลลาร์และ 94.950 เยน เทียบกับ
ระดับปิดตลาดวันศุกร์ที่ 1.2156 ดอลลาร์และ 95.420 เยน
กังวลศก.สเปนกดน้ำมันดิบปิดดิ่งลง 4% -- ราคาน้ำมันดิบในตลาดล่วงหน้า NYMEX ดิ่งลง
เป็นวันที่สองติดต่อกันในวันจันทร์ โดยรูดลงกว่า 4% ในขณะที่นักลงทุนกังวลว่ารัฐบาลสเปนอาจจะต้อง
ขอความช่วยเหลือทางการเงินจากต่างประเทศอย่างเต็มที่ โดยปัจจัยนี้ทำให้นักลงทุนยิ่งกังวลกับวิกฤติ
หนี้ยูโรโซน และกังวลกับผลกระทบที่จะมีต่ออุปสงค์น้ำมันในตลาดโลก ทั้งนี้ ราคาน้ำมันดิบส่งมอบเดือน
ก.ย.รูดลง 3.69 ดอลลาร์ หรือ 4% มาปิด ตลาดที่ 88.14 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
ปัญหาศก.สเปนกดราคาทองร่วงลง -- ราคาทองสปอตที่ตลาดสหรัฐอ่อนลง 8.04 ดอลลาร์
หรือ 0.5% สู่ 1,576.10 ดอลลาร์/ออนซ์ในช่วงท้ายตลาดวันจันทร์ ในขณะที่ปัญหาเศรษฐกิจสเปนกระ
ตุ้นความกังวลเรื่องวิกฤติหนี้ยูโรโซน อย่างไรก็ดี ราคาทองได้รับแรงหนุนจากคำสั่งซื้อสินทรัพย์ปลอดภัย
ซึ่งช่วยให้ราคาทองลดช่วงติดลบกลับขึ้นมาได้บ้าง และช่วยให้ราคาทองรักษาระดับความแข็งแกร่งไว้ได้
ดีกว่าตลาดหุ้นและราคาสินค้าโภคภัณฑ์ประเภทอื่นๆ ทั้งนี้ ราคาทองส่งมอบเดือนส.ค.ที่ตลาด COMEX ปิด
ลดลง 5.40 ดอลลาร์ ที่ 1,577.40 ดอลลาร์/ออนซ์ และราคาโลหะเงินส่งมอบเดือนก.ย.ปิดลดลง
26.00 เซนต์ ที่ 27.042 ดอลลาร์/ออนซ์ ส่วนที่ตลาด NYMEX ราคาพลาตินั่มส่งมอบเดือนต.ค.ปิดร่วงลง
15.60 ดอลลาร์ ที่ 1,398.90 ดอลลาร์/ออนซ์ และราคาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนก.ย.ปิดลดลง 5.15
ดอลลาร์ ที่ 570.95 ดอลลาร์/ออนซ์
SET:ปัจจัยจับตาการลงทุนวันนี้ ตลาดหุ้นสหรัฐและราคาน้ำมันดิบปิดร่วง
ต่างประเทศ
*ตลาดหุ้นสหรัฐปิดร่วงลงเป็นวันที่สองติดต่อกันในวันจันทร์ โดยดัชนีดาวโจนส์ปิด
ลบ 0.79% ขณะที่สเปนดูเหมือนใกล้จะต้องขอความช่วยเหลือทางการเงินระดับประเทศ
และการเปิดเผยผลประกอบการที่อ่อนแอ จากบริษัทแมคโดนัลด์ ได้ถ่วงตลาดลง
*วานนี้ตลาดหุ้นเอเชียตะวันออกเฉียงใต้อ่อนตัวลง ท่ามกลางปริมาณซื้อขายที่เบาบาง
ขณะที่นักลงทุนพากันขายสินทรัพย์เสี่ยง โดยมีความวิตกว่าสเปนอาจต้องขอรับความ
ช่วยเหลือทางการเงินจากต่างประเทศอย่างเต็มรูปแบบ ส่งผลให้ตลาดหุ้นสิงคโปร์,
มาเลเซีย, อินโดนีเซีย, ฟิลิปปินส์ และเวียดนาม ต่างปิดในแดนลบ
*ราคาน้ำมันดิบในตลาดล่วงหน้า NYMEX ส่งมอบเดือนก.ย.ปิดวานนี้ ร่วง 3.69
ดอลลาร์ หรือ 4% ปิดที่ 88.14 ดอลลาร์/บาร์เรล โดยดิ่งลงเป็นวันที่สอง ขณะที่
นักลงทุนกังวลว่ารัฐบาลสเปน อาจต้องขอความช่วยเหลือทางการเงินจากต่างประเทศ
อย่างเต็มที่ ส่งผลให้นักลงทุนยิ่งกังวลกับวิกฤติหนี้ยูโรโซน และกังวลผลกระทบ
ที่จะมีต่ออุปสงค์น้ำมันในตลาดโลก
*ดัชนีค่าระวางเรือ(Baltic Dry Index) ปิดวานนี้ ลบ 15 จุด หรือ 1.45% สู่
ระดับ 1022 โดยระดับสูงสุดของปีนี้อยู่ที่ 1624 และระดับต่ำสุดของปีนี้อยู่ที่ 647
*ประธานธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด) สาขาซานฟรานซิสโก ให้สัมภาษณ์กับหนังสือพิมพ์
ไฟแนนเชียล ไทมส์ เมื่อวานว่า มาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ(QE) ซึ่งสามารถปรับ
ให้เหมาะสมกับภาวะเศรษฐกิจนั้น ควรได้รับการพิจารณา หากเฟดจะออกมาตรการกระตุ้น
ด้านการเงินรอบใหม่ เขายังระบุว่า มีความเสี่ยงในช่วงขาลงอย่างมากต่อเศรษฐกิจ
สหรัฐจากวิกฤติยูโรโซน
เศรษฐกิจทั่วไป
*บลจ.เกียรตินาคิน มองภาวะการลงทุนขณะนี้ ยังมีความเสี่ยงจากเศรษฐกิจต่างประเทศ
โดยเฉพาะวิกฤติหนี้ในยุโรป ที่หากลุกลามขึ้นอีก ก็จะกระทบต่อการลงทุน และยัง
เป็นห่วงเรื่องเศรษฐกิจสหรัฐ ซึ่งหากว่ามีสัญญาณฟื้นตัวขึ้น และไม่จำเป็นต้อง
ใช้ QE3 ก็จะทำให้ภาวะการลงทุนประคองตัวไปเรื่อยๆ แต่ไม่ได้ดีมาก
*กลุ่ม ปตท.มีแผนเสนอรัฐบาลขยายระยะเวลาผ่อนผันการเพิ่มปริมาณสำรองน้ำมันตาม
กฎหมายเป็น 6% ของปริมาณการใช้ จากเดิมที่รัฐบาลจะให้เวลาผ่อนผันภายใน 90 วัน
นับจากวันที่ออกประกาศเพิ่มปริมาณสำรองดังกล่าว
*"ยิ่งลักษณ์" และ"พล.อ.เต็ง เส่ง"ยืนยันว่า ไทยและเมียนมาร์จะร่วมกันผลักดัน
โครงการท่าเรือน้ำลึกทวายให้สำเร็จเป็นรูปธรรม เพื่อประโยชน์ของภูมิภาคนี้
และจะร่วมมือกันด้านการพัฒนาเศรษฐกิจ พลังงาน และโครงสร้างพื้นฐานด้วย
*สมาคมต่อต้านสภาวะโลกร้อน พร้อมเครือข่าย จะยื่นฟ้องศาลปกครองกลางในวันนี้เพื่อ
ขอให้ศาลพิจารณาสั่งเพิกถอนมติครม. เมื่อวันที่ 10 เม.ย.ที่อนุมัติหลักการให้
สร้างเขื่อนแม่วงก์ เนื่องจากยังไม่ดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมาย
*รัฐบาลยกโครงการทวายเป็นระดับรัฐต่อรัฐ "ยิ่งลักษณ์ -เต็งเส่ง" เซ็นเอ็มโอยู
ตั้งคณะกรรมการระดับรัฐมนตรีร่วม 2 ประเทศ ถกนัดแรก ส.ค. ทัพนักธุรกิจไทยจ่อ
ลงทุนพม่า สหพัฒน์เล็งตั้งนิคมฯ 2 พันล้าน เอสซีจียื่นแผนโรงปูนซีเมนต์หมื่น
ล้านบาท มิตรผลศึกษาตั้งโรงงานน้ำตาล(นสพ.กรุงเทพธุรกิจ)
*ผู้ช่วยผู้ว่าการธปท. กล่าวว่าเงินบาทในวันที่ 23 ก.ค.ที่ผ่านมาอ่อนค่าลง
น่าจะเป็นผลจากข่าวกรณีที่ฝ่ายค้านของประเทศกรีซ ระบุว่าหนี้ของกรีซอาจจะ
เป็นหนี้เสีย ถึงข่าวดังกล่าวจะไม่ใช่เรื่องใหม่ แต่ก็มีผลต่อค่าเงินบาทบ้าง
(นสพ.โพสต์ทูเดย์)
*ธปท.เผยสินเชื่อดอกเบี้ยผ่อนปรน(ซอฟต์โลน) วงเงินปล่อยกู้ 2.1 แสนลบ.
ที่เตรียมไว้ให้กู้กับธนาคารพาณิชย์รัฐและเอกชน ที่เข้าร่วมโครงการนำไปปล่อยกู้
ให้ผู้ประสบภัยน้ำท่วมในปี 54 นั้น ยังเหลือวงเงินที่ยังไม่ได้จัดสรรอีก 4
หมื่นลบ. โดยจะเปิดจัดสรรให้กู้แก่ธนาคารอีกครั้ง ในงวดเดือนก.ค.-ก.ย.ปีนี้
(นสพ.โพสต์ทูเดย์)
*"กิตติรัตน์"เผยรัฐยังไม่มีแนวคิด ที่จะจัดเก็บภาษีโทรคมนาคม เพราะจะทำให้เพิ่ม
ภาระผู้บริโภค และรัฐบาลไม่ได้มุ่งหวังหารายได้เพิ่ม อีกทั้งปัจจุบันธุรกิจ
โทรคมนาคมยังมีปัญหาที่ประมูล 3 จี ไม่ได้ จึงไม่ต้องการสร้างภาระและเงื่อนไข
เพิ่มเติมให้กับภาคเอกชน (นสพ.มติชน)
การเมือง
*ประธานวิปพรรคร่วมรัฐบาล เผยจะประชุมในวันที่ 30 ก.ค.นี้ เพื่อหารือถึงกรอบ
การทำงาน ก่อนจะเปิดสมัยประชุมสภาผู้แทนราษฎรในต้นเดือนส.ค.นี้ และกรณี
พ.ร.บ.ว่าด้วยความปรองดองแห่งชาติ จะดำเนินการอย่างไรต่อไป
*ศาลอาญา เลื่อนนัดฟังคำสั่งเป็นวันที่ 9 ส.ค.กรณี"จตุพร"อาจมีพฤติการณ์
หมิ่นเหม่จะผิดเงื่อนไขการให้ประกันตัว
*"เสนาะ" เผย "ทักษิณ" หนุนแก้ รธน.รายมาตรา ทีมยุทธศาสตร์เพื่อไทยนัดถก
แนวทางแก้ รธน.อีกรอบ 24 ก.ค. "ปลอดประสพ" ลั่น ส.ส.มีหน้าที่ยกมืออย่าง
เดียว ด้านประธานวุฒิสภาแนะแก้ รธน.ฟังเสียงประชาชน เผยโผปรับ ครม.
"บุญทรง-กิตติรัตน์-ประชา-สุชาติ-ปลอดประสพ-สุรพงษ์" อยู่ในข่ายสลับเก้าอี้
(นสพ.กรุงเทพธุรกิจ)
*ศาลอาญาเตือน"จตุพร"ระวังคำพูด พร้อมนัดฟังคำสั่งถอน-ไม่ถอนประกัน 9 ส.ค.
ด้าน"สมศักดิ์"เล็งเรียกประชุมสภานัดพิเศษ เคลียร์แนวทางแก้รัฐธรรมนูญก่อนเปิด
สภา 1 ส.ค.(นสพ.มติชน)
SET:คาดหุ้นไทยวันนี้ปรับลง กังวลปัญหาหนี้ยุโรป, กำไรสุทธิ PTTEP ต่ำกว่าคาด
*นักวิเคราะห์คาดหุ้นไทยวันนี้ ปรับตัวลงเนื่องจากยังได้รับผลกระทบจากปัจจัยเดิม
ได้แก่ปัญหาหนี้ของยุโรป ที่ยังสร้างความกังวลต่อการลงทุน รวมถึงราคาน้ำมันดิบ
ที่ปรับตัวลดลง ส่งผลกระทบต่อหุ้นกลุ่มพลังงาน นอกจากนี้การที่บมจ.ปตท.สำรวจ
และผลิตปิโตรเลียม
มีกำไรสุทธิต่ำกว่าที่คาดการณ์ไว้ ก็เป็นอีกปัจจัย ที่ส่งผลกระทบต่อตลาดหุ้น
*ตลาดหุ้นสหรัฐปิดร่วงลงเป็นวันที่สองติดต่อกันในวันจันทร์ โดยดัชนีดาวโจนส์ปิด
ลบ 0.79% ขณะที่สเปนดูเหมือนใกล้จะต้องขอความช่วยเหลือทางการเงินระดับประเทศ
และการเปิดเผยผลประกอบการที่อ่อนแอจากบริษัทแมคโดนัลด์ ได้ถ่วงตลาดลง
*ราคาน้ำมันดิบในตลาดล่วงหน้า NYMEX ส่งมอบเดือนก.ย.ปิดวานนี้ ร่วง 3.69
ดอลลาร์ หรือ 4% ปิดที่ 88.14 ดอลลาร์/บาร์เรล โดยดิ่งลงเป็นวันที่สอง ขณะที่
นักลงทุนกังวลว่ารัฐบาลสเปน อาจต้องขอความช่วยเหลือทางการเงินจากต่างประเทศ
อย่างเต็มที่ ส่งผลให้นักลงทุนยิ่งกังวลกับวิกฤติหนี้ยูโรโซน และกังวลผลกระทบ
ที่จะมีต่ออุปสงค์น้ำมันในตลาดโลก
*วันจันทร์ต่างชาติขายสุทธิ 1.23 พันลบ.จากวันศุกร์ขายสุทธิ 1 พันลบ.
*เช้านี้บาท/ดอลลาร์อยู่ที่ 31.75/77 จากเมื่อวันจันทร์อยู่ที่ 31.76/80
*นักวิเคราะห์มองแนวรับที่ 1,175 และ 1,170 ส่วนแนวต้านที่ 1,190
"เราคิดว่าตลาดยังคงอ่อนแอต่อ แม้ตลาดจะมีการปรับฐานมาแล้ว 4 วันติดต่อกัน
แต่ในช่วงสั้น ปัจจัยลบในเรื่องเดิมๆ ก็ยังเป็นสิ่งที่กดดันตลาดอยู่"นายปริญทร์
กิจจาทรพิทักษ์ ผู้บริหารสายงานวิเคราะห์หลักทรัพย์ และกลยุทธ์การลงทุน บล.เคทีบี
(ประเทศไทย) กล่าว
นายปริญทร์ กล่าวว่า ขณะนี้ปัญหาหนี้ของสเปน รวมถึงกรีซ เป็นปัจจัยที่สร้างความ
กังวลต่อการลงทุน รวมถึงราคาน้ำมันดิบที่ปรับลดลง ก็จะส่งผลกระทบต่อหุ้นกลุ่มพลังงาน
นอกจากนี้ เช้าวันนี้ PTTEP ได้ประกาศผลประกอบการงวดไตรมาส 2/55 ซึ่ง
กำไรสุทธิลดลง และต่ำกว่าที่คาดการณ์ไว้มาก ดังนั้นจึงอาจจะมีแรงขายหุ้น PTTEP ออกมา
และเป็นอีกปัจจัยที่กระทบต่อตลาดหุ้น
PTTEP มีกำไรสุทธิไตรมาส 2/55 ที่ 7.73 พันล้านบาท ขณะที่นักวิเคราะห์คาด
ว่าจะมีกำไรสุทธิที่ 1.41 หมื่นล้านบาท
เขา กล่าวว่า ตลาดหุ้นวันนี้จะมีแนวรับแรกที่ 1,175 และ 1,170 ส่วนแนวต้าน
มองว่าโอกาสปรับขึ้นได้ยาก ยกเว้นจะเป็นการปรับขึ้นทางเทคนิค ดังนั้นจึงมองแนวต้านแรก
ที่ 1,185 ซึ่งเป็นระดับปิดวานนี้ และแนวต้านต่อไปที่ 1,190
ดัชนีตลาดหุ้นสำคัญ
*ดัชนีตลาดหลักทรัพย์เมื่อวันจันทร์ ปิดลบ 23.44 จุด หรือ 1.94% มาที่ 1,185.11
ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 28,427.51 ล้านบาท
*ดัชนีอุตสาหกรรมดาวโจนส์เมื่อวันจันทร์ ปิดลบ 101.11 จุด หรือ 0.79% มาที่
12,721.46 และดัชนีแนสแดค ปิดลบ 35.15 จุด หรือ 1.20% มาที่ 2,890.15
*ตลาดหุ้นในภูมิภาคเช้านี้ ส่วนใหญ่เคลื่อนไหวกรอบแคบ โดยตลาดหุ้นสิงคโปร์ บวก
0.62%, ญี่ปุ่น ลบ 0.41% ,เกาหลีใต้ ลบ 0.19% และ ไต้หวัน ลบ 0.42%
ขณะที่ฮ่องกงปิดทำการ เนื่องจากพายุไต้ฝุ่นวินเซนต์พัดกระหน่ำ เกาะฮ่องกง
จับตาหุ้น
*PTTEP เผย Q2/55 กำไรสุทธิลดลง มาที่ 7.73 พันล้านบาท
*DTAC เผย Q2/55 กำไรสุทธิลดลงมาที่ 2.83 พันล้านบาท
*SPCG คาด Q2/55 กำไรสุทธิดีกว่า Q1,ทั้งปีพลิกกำไรสุทธิ-รายได้โตมาก
*POST "สุทธิเกียรติ"สนใจซื้อหุ้น POST เพิ่ม หากราคาจูงใจ, ตลท.จับตาหุ้นพุ่ง
*BJC คาดกำไรสุทธิปีนี้ ดีกว่าปีก่อน, สรุปซื้อกิจการใน Q3/55
No comments:
Post a Comment