Tuesday, July 24, 2012

สรุปข่าวเศรษฐกิจรอบโลก 24 กค 55

ภาวะตลาดหุ้นประจำวันที่ 23 ก.ค. 

ดัชนี-ตลาด ปิดที่ระดับ เปลี่ยนแปลง 

ดาวโจนส์-ตลาดหุ้นนิวยอร์ค 12,721.46 - 101.11 
FTSE-ตลาดหุ้นลอนดอน 5,533.87 - 117.90 
DAX-ตลาดหุ้นเยอรมนี 6,419.33 - 210.69 
CAC-40-ตลาดหุ้นฝรั่งเศส 3,101.53 - 92.36 
คอมโพสิต-ตลาดหุ้นมะนิลา 5,139.40 - 71.49 
เวทเต็ด-ตลาดหุ้นไต้หวัน 7,028.73 - 135.95 
S&P/ASX-ตลาดหุ้นออสเตรเลีย 4,128.90 - 70.20 
นิกเกอิ-ตลาดหุ้นโตเกียว 8,508.32 - 161.55 
คอมโพสิต-ตลาดหุ้นโซล 1,789.44 - 33.49 
ฮั่งเส็ง-ตลาดหุ้นฮ่องกง 19,053.47 - 587.33 
คอมโพสิต-ตลาดหุ้นมาเลเซีย 1,636.17 - 6.83 
FTSE STI-ตลาดหุ้นสิงคโปร์ 2,982.49 - 33.04 
คอมโพสิต-ตลาดหุ้นจาการ์ตา 4,009.79 - 71.40 
SET-ตลาดหุ้นไทย 1,185.11 - 23.44 
SET-50-ตลาดหุ้นไทย 818.43 - 18.56 
SET-100-ตลาดหุ้นไทย 1,782.02 - 39.07 

วิกฤติอียูหนุนพันธบัตรปิดพุ่ง -- อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐร่วงแตะระดับต่ำสุด 
ใหม่เป็นประวัติการณ์ในวันจันทร์ ขณะที่ความวิตกว่า วิกฤติหนี้ของยูโรโซนจะลุกลามจนควบคุมไม่อยู่นั้น 
ทำให้นักลงทุนพากันเข้าซื้อพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ ในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย ทั้งนี้ ราคาพันธบัตรอายุ 
10 ปีปิดบวก 06/32 สู่ระดับ 102-27/32 โดยมีผลตอบแทน 1.438% และราคาพันธบัตรอายุ 30 
ปีปิดพุ่งขึ้น 22/32 สู่ระดับ 110-04/32 โดยมีผลตอบแทน 2.515% 

ยูโรร่วงจากวิตกปัญหาสเปน,มูดี้ส์ปรับแนวโน้มเครดิตเยอรมนี -- ยูโรร่วงลงสู่ระดับต่ำสุด 
ในรอบ 2 ปีเมื่อเทียบกับดอลลาร์และต่ำสุดในรอบเกือบ 12 ปีเมื่อเทียบกับเยนในวันจันทร์จากความ 
วิตกว่าสเปนใกล้ที่จะต้องขอรับความช่วยเหลืออย่างเต็มที่ ทั้งนี้ ดอลลาร์อยู่ที่ 78.360 เยน เทียบกับ 
ระดับปิดตลาดวันศุกร์ที่ 78.450 เยน ส่วนยูโรอยู่ที่ 1.2117 ดอลลาร์และ 94.950 เยน เทียบกับ 
ระดับปิดตลาดวันศุกร์ที่ 1.2156 ดอลลาร์และ 95.420 เยน 

กังวลศก.สเปนกดน้ำมันดิบปิดดิ่งลง 4% -- ราคาน้ำมันดิบในตลาดล่วงหน้า NYMEX ดิ่งลง 
เป็นวันที่สองติดต่อกันในวันจันทร์ โดยรูดลงกว่า 4% ในขณะที่นักลงทุนกังวลว่ารัฐบาลสเปนอาจจะต้อง 
ขอความช่วยเหลือทางการเงินจากต่างประเทศอย่างเต็มที่ โดยปัจจัยนี้ทำให้นักลงทุนยิ่งกังวลกับวิกฤติ 
หนี้ยูโรโซน และกังวลกับผลกระทบที่จะมีต่ออุปสงค์น้ำมันในตลาดโลก ทั้งนี้ ราคาน้ำมันดิบส่งมอบเดือน 
ก.ย.รูดลง 3.69 ดอลลาร์ หรือ 4% มาปิด ตลาดที่ 88.14 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล 

ปัญหาศก.สเปนกดราคาทองร่วงลง -- ราคาทองสปอตที่ตลาดสหรัฐอ่อนลง 8.04 ดอลลาร์ 
หรือ 0.5% สู่ 1,576.10 ดอลลาร์/ออนซ์ในช่วงท้ายตลาดวันจันทร์ ในขณะที่ปัญหาเศรษฐกิจสเปนกระ 
ตุ้นความกังวลเรื่องวิกฤติหนี้ยูโรโซน อย่างไรก็ดี ราคาทองได้รับแรงหนุนจากคำสั่งซื้อสินทรัพย์ปลอดภัย 
ซึ่งช่วยให้ราคาทองลดช่วงติดลบกลับขึ้นมาได้บ้าง และช่วยให้ราคาทองรักษาระดับความแข็งแกร่งไว้ได้ 
ดีกว่าตลาดหุ้นและราคาสินค้าโภคภัณฑ์ประเภทอื่นๆ ทั้งนี้ ราคาทองส่งมอบเดือนส.ค.ที่ตลาด COMEX ปิด 
ลดลง 5.40 ดอลลาร์ ที่ 1,577.40 ดอลลาร์/ออนซ์ และราคาโลหะเงินส่งมอบเดือนก.ย.ปิดลดลง 
26.00 เซนต์ ที่ 27.042 ดอลลาร์/ออนซ์ ส่วนที่ตลาด NYMEX ราคาพลาตินั่มส่งมอบเดือนต.ค.ปิดร่วงลง 
15.60 ดอลลาร์ ที่ 1,398.90 ดอลลาร์/ออนซ์ และราคาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนก.ย.ปิดลดลง 5.15 
ดอลลาร์ ที่ 570.95 ดอลลาร์/ออนซ์




SET:ปัจจัยจับตาการลงทุนวันนี้ ตลาดหุ้นสหรัฐและราคาน้ำมันดิบปิดร่วง 


ต่างประเทศ 

*ตลาดหุ้นสหรัฐปิดร่วงลงเป็นวันที่สองติดต่อกันในวันจันทร์ โดยดัชนีดาวโจนส์ปิด 
ลบ 0.79% ขณะที่สเปนดูเหมือนใกล้จะต้องขอความช่วยเหลือทางการเงินระดับประเทศ 
และการเปิดเผยผลประกอบการที่อ่อนแอ จากบริษัทแมคโดนัลด์ ได้ถ่วงตลาดลง 
*วานนี้ตลาดหุ้นเอเชียตะวันออกเฉียงใต้อ่อนตัวลง ท่ามกลางปริมาณซื้อขายที่เบาบาง 
ขณะที่นักลงทุนพากันขายสินทรัพย์เสี่ยง โดยมีความวิตกว่าสเปนอาจต้องขอรับความ 
ช่วยเหลือทางการเงินจากต่างประเทศอย่างเต็มรูปแบบ ส่งผลให้ตลาดหุ้นสิงคโปร์, 
มาเลเซีย, อินโดนีเซีย, ฟิลิปปินส์ และเวียดนาม ต่างปิดในแดนลบ 
*ราคาน้ำมันดิบในตลาดล่วงหน้า NYMEX ส่งมอบเดือนก.ย.ปิดวานนี้ ร่วง 3.69 
ดอลลาร์ หรือ 4% ปิดที่ 88.14 ดอลลาร์/บาร์เรล โดยดิ่งลงเป็นวันที่สอง ขณะที่ 
นักลงทุนกังวลว่ารัฐบาลสเปน อาจต้องขอความช่วยเหลือทางการเงินจากต่างประเทศ 
อย่างเต็มที่ ส่งผลให้นักลงทุนยิ่งกังวลกับวิกฤติหนี้ยูโรโซน และกังวลผลกระทบ 
ที่จะมีต่ออุปสงค์น้ำมันในตลาดโลก 
*ดัชนีค่าระวางเรือ(Baltic Dry Index) ปิดวานนี้ ลบ 15 จุด หรือ 1.45% สู่ 
ระดับ 1022 โดยระดับสูงสุดของปีนี้อยู่ที่ 1624 และระดับต่ำสุดของปีนี้อยู่ที่ 647 
*ประธานธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด) สาขาซานฟรานซิสโก ให้สัมภาษณ์กับหนังสือพิมพ์ 
ไฟแนนเชียล ไทมส์ เมื่อวานว่า มาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ(QE) ซึ่งสามารถปรับ 
ให้เหมาะสมกับภาวะเศรษฐกิจนั้น ควรได้รับการพิจารณา หากเฟดจะออกมาตรการกระตุ้น 
ด้านการเงินรอบใหม่ เขายังระบุว่า มีความเสี่ยงในช่วงขาลงอย่างมากต่อเศรษฐกิจ 
สหรัฐจากวิกฤติยูโรโซน 

เศรษฐกิจทั่วไป 

*บลจ.เกียรตินาคิน มองภาวะการลงทุนขณะนี้ ยังมีความเสี่ยงจากเศรษฐกิจต่างประเทศ 
โดยเฉพาะวิกฤติหนี้ในยุโรป ที่หากลุกลามขึ้นอีก ก็จะกระทบต่อการลงทุน และยัง 
เป็นห่วงเรื่องเศรษฐกิจสหรัฐ ซึ่งหากว่ามีสัญญาณฟื้นตัวขึ้น และไม่จำเป็นต้อง 
ใช้ QE3 ก็จะทำให้ภาวะการลงทุนประคองตัวไปเรื่อยๆ แต่ไม่ได้ดีมาก 
*กลุ่ม ปตท.มีแผนเสนอรัฐบาลขยายระยะเวลาผ่อนผันการเพิ่มปริมาณสำรองน้ำมันตาม 
กฎหมายเป็น 6% ของปริมาณการใช้ จากเดิมที่รัฐบาลจะให้เวลาผ่อนผันภายใน 90 วัน 
นับจากวันที่ออกประกาศเพิ่มปริมาณสำรองดังกล่าว 
*"ยิ่งลักษณ์" และ"พล.อ.เต็ง เส่ง"ยืนยันว่า ไทยและเมียนมาร์จะร่วมกันผลักดัน 
โครงการท่าเรือน้ำลึกทวายให้สำเร็จเป็นรูปธรรม เพื่อประโยชน์ของภูมิภาคนี้ 
และจะร่วมมือกันด้านการพัฒนาเศรษฐกิจ พลังงาน และโครงสร้างพื้นฐานด้วย 
*สมาคมต่อต้านสภาวะโลกร้อน พร้อมเครือข่าย จะยื่นฟ้องศาลปกครองกลางในวันนี้เพื่อ 
ขอให้ศาลพิจารณาสั่งเพิกถอนมติครม. เมื่อวันที่ 10 เม.ย.ที่อนุมัติหลักการให้ 
สร้างเขื่อนแม่วงก์ เนื่องจากยังไม่ดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมาย 
*รัฐบาลยกโครงการทวายเป็นระดับรัฐต่อรัฐ "ยิ่งลักษณ์ -เต็งเส่ง" เซ็นเอ็มโอยู 
ตั้งคณะกรรมการระดับรัฐมนตรีร่วม 2 ประเทศ ถกนัดแรก ส.ค. ทัพนักธุรกิจไทยจ่อ 
ลงทุนพม่า สหพัฒน์เล็งตั้งนิคมฯ 2 พันล้าน เอสซีจียื่นแผนโรงปูนซีเมนต์หมื่น 
ล้านบาท มิตรผลศึกษาตั้งโรงงานน้ำตาล(นสพ.กรุงเทพธุรกิจ) 
*ผู้ช่วยผู้ว่าการธปท. กล่าวว่าเงินบาทในวันที่ 23 ก.ค.ที่ผ่านมาอ่อนค่าลง 
น่าจะเป็นผลจากข่าวกรณีที่ฝ่ายค้านของประเทศกรีซ ระบุว่าหนี้ของกรีซอาจจะ 
เป็นหนี้เสีย ถึงข่าวดังกล่าวจะไม่ใช่เรื่องใหม่ แต่ก็มีผลต่อค่าเงินบาทบ้าง 
(นสพ.โพสต์ทูเดย์) 
*ธปท.เผยสินเชื่อดอกเบี้ยผ่อนปรน(ซอฟต์โลน) วงเงินปล่อยกู้ 2.1 แสนลบ. 
ที่เตรียมไว้ให้กู้กับธนาคารพาณิชย์รัฐและเอกชน ที่เข้าร่วมโครงการนำไปปล่อยกู้ 
ให้ผู้ประสบภัยน้ำท่วมในปี 54 นั้น ยังเหลือวงเงินที่ยังไม่ได้จัดสรรอีก 4 
หมื่นลบ. โดยจะเปิดจัดสรรให้กู้แก่ธนาคารอีกครั้ง ในงวดเดือนก.ค.-ก.ย.ปีนี้ 
(นสพ.โพสต์ทูเดย์) 
*"กิตติรัตน์"เผยรัฐยังไม่มีแนวคิด ที่จะจัดเก็บภาษีโทรคมนาคม เพราะจะทำให้เพิ่ม 
ภาระผู้บริโภค และรัฐบาลไม่ได้มุ่งหวังหารายได้เพิ่ม อีกทั้งปัจจุบันธุรกิจ 
โทรคมนาคมยังมีปัญหาที่ประมูล 3 จี ไม่ได้ จึงไม่ต้องการสร้างภาระและเงื่อนไข 
เพิ่มเติมให้กับภาคเอกชน (นสพ.มติชน) 

การเมือง 
*ประธานวิปพรรคร่วมรัฐบาล เผยจะประชุมในวันที่ 30 ก.ค.นี้ เพื่อหารือถึงกรอบ 
การทำงาน ก่อนจะเปิดสมัยประชุมสภาผู้แทนราษฎรในต้นเดือนส.ค.นี้ และกรณี 
พ.ร.บ.ว่าด้วยความปรองดองแห่งชาติ จะดำเนินการอย่างไรต่อไป 
*ศาลอาญา เลื่อนนัดฟังคำสั่งเป็นวันที่ 9 ส.ค.กรณี"จตุพร"อาจมีพฤติการณ์ 
หมิ่นเหม่จะผิดเงื่อนไขการให้ประกันตัว 
*"เสนาะ" เผย "ทักษิณ" หนุนแก้ รธน.รายมาตรา ทีมยุทธศาสตร์เพื่อไทยนัดถก 
แนวทางแก้ รธน.อีกรอบ 24 ก.ค. "ปลอดประสพ" ลั่น ส.ส.มีหน้าที่ยกมืออย่าง 
เดียว ด้านประธานวุฒิสภาแนะแก้ รธน.ฟังเสียงประชาชน เผยโผปรับ ครม. 
"บุญทรง-กิตติรัตน์-ประชา-สุชาติ-ปลอดประสพ-สุรพงษ์" อยู่ในข่ายสลับเก้าอี้ 
(นสพ.กรุงเทพธุรกิจ) 
*ศาลอาญาเตือน"จตุพร"ระวังคำพูด พร้อมนัดฟังคำสั่งถอน-ไม่ถอนประกัน 9 ส.ค. 
ด้าน"สมศักดิ์"เล็งเรียกประชุมสภานัดพิเศษ เคลียร์แนวทางแก้รัฐธรรมนูญก่อนเปิด 
สภา 1 ส.ค.(นสพ.มติชน)




SET:คาดหุ้นไทยวันนี้ปรับลง กังวลปัญหาหนี้ยุโรป, กำไรสุทธิ PTTEP ต่ำกว่าคาด 


*นักวิเคราะห์คาดหุ้นไทยวันนี้ ปรับตัวลงเนื่องจากยังได้รับผลกระทบจากปัจจัยเดิม 
ได้แก่ปัญหาหนี้ของยุโรป ที่ยังสร้างความกังวลต่อการลงทุน รวมถึงราคาน้ำมันดิบ 
ที่ปรับตัวลดลง ส่งผลกระทบต่อหุ้นกลุ่มพลังงาน นอกจากนี้การที่บมจ.ปตท.สำรวจ 
และผลิตปิโตรเลียม ประกาศผลประกอบการงวดไตรมาส 2/55
มีกำไรสุทธิต่ำกว่าที่คาดการณ์ไว้ ก็เป็นอีกปัจจัย ที่ส่งผลกระทบต่อตลาดหุ้น
*ตลาดหุ้นสหรัฐปิดร่วงลงเป็นวันที่สองติดต่อกันในวันจันทร์ โดยดัชนีดาวโจนส์ปิด
ลบ 0.79% ขณะที่สเปนดูเหมือนใกล้จะต้องขอความช่วยเหลือทางการเงินระดับประเทศ
และการเปิดเผยผลประกอบการที่อ่อนแอจากบริษัทแมคโดนัลด์ ได้ถ่วงตลาดลง
*ราคาน้ำมันดิบในตลาดล่วงหน้า NYMEX ส่งมอบเดือนก.ย.ปิดวานนี้ ร่วง 3.69
ดอลลาร์ หรือ 4% ปิดที่ 88.14 ดอลลาร์/บาร์เรล โดยดิ่งลงเป็นวันที่สอง ขณะที่
นักลงทุนกังวลว่ารัฐบาลสเปน อาจต้องขอความช่วยเหลือทางการเงินจากต่างประเทศ
อย่างเต็มที่ ส่งผลให้นักลงทุนยิ่งกังวลกับวิกฤติหนี้ยูโรโซน และกังวลผลกระทบ
ที่จะมีต่ออุปสงค์น้ำมันในตลาดโลก
*วันจันทร์ต่างชาติขายสุทธิ 1.23 พันลบ.จากวันศุกร์ขายสุทธิ 1 พันลบ.
*เช้านี้บาท/ดอลลาร์อยู่ที่ 31.75/77 จากเมื่อวันจันทร์อยู่ที่ 31.76/80
*นักวิเคราะห์มองแนวรับที่ 1,175 และ 1,170 ส่วนแนวต้านที่ 1,190

"เราคิดว่าตลาดยังคงอ่อนแอต่อ แม้ตลาดจะมีการปรับฐานมาแล้ว 4 วันติดต่อกัน
แต่ในช่วงสั้น ปัจจัยลบในเรื่องเดิมๆ ก็ยังเป็นสิ่งที่กดดันตลาดอยู่"นายปริญทร์
กิจจาทรพิทักษ์ ผู้บริหารสายงานวิเคราะห์หลักทรัพย์ และกลยุทธ์การลงทุน บล.เคทีบี
(ประเทศไทย) กล่าว
นายปริญทร์ กล่าวว่า ขณะนี้ปัญหาหนี้ของสเปน รวมถึงกรีซ เป็นปัจจัยที่สร้างความ
กังวลต่อการลงทุน รวมถึงราคาน้ำมันดิบที่ปรับลดลง ก็จะส่งผลกระทบต่อหุ้นกลุ่มพลังงาน
นอกจากนี้ เช้าวันนี้ PTTEP ได้ประกาศผลประกอบการงวดไตรมาส 2/55 ซึ่ง
กำไรสุทธิลดลง และต่ำกว่าที่คาดการณ์ไว้มาก ดังนั้นจึงอาจจะมีแรงขายหุ้น PTTEP ออกมา
และเป็นอีกปัจจัยที่กระทบต่อตลาดหุ้น
PTTEP มีกำไรสุทธิไตรมาส 2/55 ที่ 7.73 พันล้านบาท ขณะที่นักวิเคราะห์คาด
ว่าจะมีกำไรสุทธิที่ 1.41 หมื่นล้านบาท
เขา กล่าวว่า ตลาดหุ้นวันนี้จะมีแนวรับแรกที่ 1,175 และ 1,170 ส่วนแนวต้าน
มองว่าโอกาสปรับขึ้นได้ยาก ยกเว้นจะเป็นการปรับขึ้นทางเทคนิค ดังนั้นจึงมองแนวต้านแรก
ที่ 1,185 ซึ่งเป็นระดับปิดวานนี้ และแนวต้านต่อไปที่ 1,190

ดัชนีตลาดหุ้นสำคัญ 


*ดัชนีตลาดหลักทรัพย์เมื่อวันจันทร์ ปิดลบ 23.44 จุด หรือ 1.94% มาที่ 1,185.11
ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 28,427.51 ล้านบาท
*ดัชนีอุตสาหกรรมดาวโจนส์เมื่อวันจันทร์ ปิดลบ 101.11 จุด หรือ 0.79% มาที่
12,721.46 และดัชนีแนสแดค ปิดลบ 35.15 จุด หรือ 1.20% มาที่ 2,890.15
*ตลาดหุ้นในภูมิภาคเช้านี้ ส่วนใหญ่เคลื่อนไหวกรอบแคบ โดยตลาดหุ้นสิงคโปร์ บวก
0.62%, ญี่ปุ่น ลบ 0.41% ,เกาหลีใต้ ลบ 0.19% และ ไต้หวัน ลบ 0.42%
ขณะที่ฮ่องกงปิดทำการ เนื่องจากพายุไต้ฝุ่นวินเซนต์พัดกระหน่ำ เกาะฮ่องกง

จับตาหุ้น 


*PTTEP เผย Q2/55 กำไรสุทธิลดลง มาที่ 7.73 พันล้านบาท
*DTAC เผย Q2/55 กำไรสุทธิลดลงมาที่ 2.83 พันล้านบาท
*SPCG คาด Q2/55 กำไรสุทธิดีกว่า Q1,ทั้งปีพลิกกำไรสุทธิ-รายได้โตมาก
*POST "สุทธิเกียรติ"สนใจซื้อหุ้น POST เพิ่ม หากราคาจูงใจ, ตลท.จับตาหุ้นพุ่ง
*BJC คาดกำไรสุทธิปีนี้ ดีกว่าปีก่อน, สรุปซื้อกิจการใน Q3/55

No comments:

Post a Comment