Tuesday, July 17, 2012

สรุปข่าวเศรษฐกิจรอบโลก 18 กค 55

ภาวะตลาดหุ้นประจำวันที่ 17 ก.ค. 

ดัชนี-ตลาด ปิดที่ระดับ เปลี่ยนแปลง 

ดาวโจนส์-ตลาดหุ้นนิวยอร์ค 12,805.54 + 78.33 
FTSE-ตลาดหุ้นลอนดอน 5,629.09 - 33.34 
DAX-ตลาดหุ้นเยอรมนี 6,577.64 + 11.92 
CAC-40-ตลาดหุ้นฝรั่งเศส 3,176.97 - 2.93 
คอมโพสิต-ตลาดหุ้นมะนิลา 5,285.12 - 12.87 
เวทเต็ด-ตลาดหุ้นไต้หวัน 7,127.00 + 36.96 
S&P/ASX-ตลาดหุ้นออสเตรเลีย 4,140.80 + 35.70 
นิกเกอิ-ตลาดหุ้นโตเกียว 8,755.00 + 30.88 
คอมโพสิต-ตลาดหุ้นโซล 1,821.96 + 4.17 
ฮั่งเส็ง-ตลาดหุ้นฮ่องกง 19,455.33 + 333.99 
คอมโพสิต-ตลาดหุ้นมาเลเซีย 1,639.15 + 3.19 
FTSE STI-ตลาดหุ้นสิงคโปร์ 3,014.80 + 16.05 
คอมโพสิต-ตลาดหุ้นจาการ์ตา 4,080.67 + 33.20 
SET-ตลาดหุ้นไทย 1,224.21 + 9.96 
SET-50-ตลาดหุ้นไทย 854.44 + 7.64 
SET-100-ตลาดหุ้นไทย 1,850.19 + 15.72 

ราคาพันธบัตรปิดร่วง -- อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐดีดตัวขึ้นจากระดับ 
ต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ในวันอังคาร ขณะที่นายเบน เบอร์นันเก้ ประธานธนาคารกลางสหรัฐ 
(เฟด) กล่าวว่า เฟดพร้อมจะจัดการกับภาวะเศรษฐกิจชะลอตัวของสหรัฐ แต่ก็แทบไม่ได้ให้ 
รายละเอียดเกี่ยวกับการดำเนินการในอนาคตของเฟด ทั้งนี้ ราคาพันธบัตรอายุ 10 ปีปิดลดลง 
09/32 สู่ระดับ 102-09/32 โดยมีผลตอบแทน 1.501% และราคาพันธบัตรอายุ 30 ปีปิดร่วงลง 
26/32 สู่ระดับ 108-13/32 โดยมีผลตอบแทน 2.593% 

ดอลล์ผันผวนขณะตลาดจับตา"เบอร์นันเก้"แถลงรอบ 2 -- ดอลลาร์ปรับตัวขึ้นลงใน 
การซื้อขายที่ผันผวนในวันอังคาร ขณะที่นายเบน เบอร์นันเก้ ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) 
แทบไม่ได้บ่งชี้ว่า เฟดพร้อมที่จะดำเนินมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มขึ้น แม้เขากล่าวว่า เฟด 
พร้อมที่จะกระตุ้นเศรษฐกิจที่ชะลอตัวของสหรัฐ หากจำเป็นก็ตาม ทั้งนี้ ดอลลาร์อยู่ที่ 79.080 
เยน เทียบกับระดับปิดตลาดวันจันทร์ที่ 78.860 เยน ส่วนยูโรอยู่ที่ 1.2285 ดอลลาร์และ 
97.170 เยน เทียบกับระดับปิดตลาดวันจันทร์ที่ 1.2272 ดอลลาร์และ 96.750 เยน 

น้ำมันดิบปรับขึ้น 0.89% หลัง"เบอร์นันเก้"ให้การ -- ราคาน้ำมันดิบในตลาดล่วงหน้า 
NYMEX ปิดปรับขึ้นในวันอังคารหลังจากร่วงลงในช่วงแรก ในขณะที่นายเบน เบอร์นันเก้ ประธาน 
ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ได้ให้การต่อคณะกรรมาธิการประจำวุฒิสภา โดยถ้อยแถลงของเขา 
บ่งชี้ว่ามีความเป็นไปได้ที่เฟดจะดำเนินมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจในอนาคต แต่ไม่ได้บ่งชี้ว่าเฟด 
ใกล้ที่จะดำเนินมาตรการดังกล่าว ทั้งนี้ ราคาน้ำมันดิบส่งมอบเดือนส.ค.ปรับขึ้น 79 เซนต์ หรือ 
0.89% มาปิดตลาดที่ 89.22 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล 

ถ้อยแถลง"เบอร์นันเก้"กดราคาทองร่วงลง -- ราคาทองสปอตที่ตลาดสหรัฐร่วงลง 
4.49 ดอลลาร์ หรือ 0.3% สู่ 1,585.30 ดอลลาร์/ออนซ์ในช่วงท้ายตลาดวันอังคาร โดยราคา 
ทองได้รับแรงกดดันจากการทำชอร์ตเซลในช่วงเช้า เนื่องจากนักลงทุนผิดหวังที่นายเบน เบอร์นันเก้ 
ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ไม่ได้ส่งสัญญาณว่าเฟดใกล้ที่จะดำเนินมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ 
รอบใหม่ อย่างไรก็ดี การปรับขึ้นของตลาดหุ้นสหรัฐกระตุ้นให้นักลงทุนเข้าซื้อทองเพื่อชดเชยการทำ 
ชอร์ตเซลในช่วงต่อมา และช่วยให้ราคาทองลดช่วงติดลบกลับขึ้นมาได้บ้าง ทั้งนี้ ราคาทองส่งมอบ 
เดือนส.ค.ที่ตลาด COMEX ปิดลดลง 2.10 ดอลลาร์ ที่ 1,589.50 ดอลลาร์/ออนซ์ และราคา 
โลหะเงินส่งมอบเดือนก.ย.ปิดลดลง 0.50 เซนต์ ที่ 27.316 ดอลลาร์/ออนซ์ ส่วนที่ตลาด NYMEX 
ราคาพลาตินั่มส่งมอบเดือนต.ค.ปิดบวก 3.40 ดอลลาร์ ที่ 1,420.70 ดอลลาร์/ออนซ์ และราคา 
พัลลาเดียมส่งมอบเดือนก.ย.ปิดบวก 5.50 ดอลลาร์ ที่ 583.35 ดอลลาร์/ออนซ์


SET:ปัจจัยจับตาการลงทุนวันนี้ ตลาดหุ้นสหรัฐและราคาน้ำมันดิบปิดปรับขึ้น 


ต่างประเทศ 

*ตลาดหุ้นสหรัฐปิดปรับขึ้นในวันอังคาร โดยดัชนีดาวโจนส์ บวก 0.62% หลังบริษัท 
โคคา-โคลา และบริษัทโกลด์แมน แซคส์ เผยผลกำไรสูงเกินคาด และนายเบน 
เบอร์นันเก้ ประธานธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด) เปิดโอกาสสำหรับกระตุ้นเศรษฐกิจ 
มากขึ้น 
*วานนี้ ตลาดหุ้นเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ส่วนใหญ่ปรับขึ้น จากความหวังที่ว่าเฟด 
จะออกมาตรการกระตุ้นทางการเงิน ส่งผลให้ตลาดหุ้นสิงคโปร์, มาเลเซีย,อินโดนีเซีย 
และ เวียดนาม ต่างปิดในแดนบวก ขณะที่ฟิลิปปินส์ ร่วงลง 0.24% 
*ราคาน้ำมันดิบในตลาดล่วงหน้า NYMEX ส่งมอบเดือนส.ค.ปิดวานนี้ ปรับขึ้น 79 เซนต์ 
หรือ 0.89% ปิดที่ 89.22 ดอลลาร์/บาร์เรล ขณะที่ประธานเฟด ได้ให้การต่อคณะ 
กรรมาธิการประจำวุฒิสภา ที่บ่งชี้ว่ามีความเป็นไปได้ ที่เฟดจะดำเนินมาตรการ 
กระตุ้นเศรษฐกิจในอนาคต แต่ไม่ได้บ่งชี้ว่าเฟดใกล้ที่จะดำเนินมาตรการดังกล่าว 
*ดัชนีค่าระวางเรือ(Baltic Dry Index) ปิดวานนี้ ลบ 9 จุด หรือ 0.82% สู่ 
ระดับ 1093 โดยระดับสูงสุดของปีนี้อยู่ที่ 1624 และระดับต่ำสุดของปีนี้อยู่ที่ 647 

เศรษฐกิจทั่วไป 
*ครม.อนุมัติหลักการให้รัฐบาล รับชดเชยผลขาดทุนจากโครงการแทรกแซงราคายาง 
ที่เคยอนุมัติวงเงิน ไว้ 1.5 หมื่นลบ.โดยจะพิจารณาผลขาดทุนเมื่อสิ้นสุดโครงการ 
ในเดือน มี.ค.56 เพื่อช่วยเหลือเกษตรกร ที่ได้รับผลกระทบจากราคายางพาราตกต่ำ 
*บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด เพิ่มเป้าหมายยอดขายรถยนต์ทั้งระบบ 
ในปีนี้เป็น 1.2 ล้านคัน จากคาดไว้ 1.1 ล้านคัน หลังครึ่งปีแรกทำยอดขายกว่า 
6 แสนคัน หลังนโยบายรัฐสนับสนุน และการผลิตของค่ายรถยนต์กลับเข้าสู่ภาวะปกติ 
*บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด เผยตัวเลขยอดขายรถยนต์ทั้งระบบ 
ในเดือนมิ.ย.ที่ 123,471 คัน เพิ่มขึ้น 75.7% จากช่วงเดียวกันปีก่อน โดยใน 
ครึ่งแรกปีนี้ทำยอดขายได้แล้ว 606,523 คัน หรือเพิ่มขึ้น 40.4% 
*บีโอไอ เผยต่างชาติลงทุนไทยใน ครึ่งแรกปีนี้เพิ่มขึ้น 66.5% จากช่วงเดียวกันของ 
ปีก่อน คิดเป็นมูลค่าราว 2.78 แสนลบ.บ่งชี้ความเชื่อมั่นไทยเป็นแหล่งลงทุนสำคัญ 
ในอาเซียน 
*ศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ ม.หอการค้าไทย ระบุ เศรษฐกิจไทยปีนี้แนวโน้ม 
แย่ลง คาดจีดีพีปีนี้ขยายตัวได้ 5.6% ลดลงจากที่คาดการณ์ไว้ 5.9% เพราะเศรษฐกิจ 
โลกฟื้นตัวช้ากว่าที่คาด อีกทั้งการเมืองมีปัญหาเรื่องเสถียรภาพ และปัญหาของแพง 
การส่งออกก็ไม่โดดเด่น มีเพียงการลงทุนภาครัฐ-เอกชน และการท่องเที่ยวที่ช่วย 
พยุงเศรษฐกิจไว้(นสพ.โพสต์ทูเดย์) 
*เลขาธิการบีโอไอ เผยบริษัท เวสเทิร์น ดิจิตอล ผู้ผลิตฮาร์ดดิสก์ ไดรฟ์ รายใหญ่ 
อันดับ 1 ของโลก ซึ่งโรงงานในนิคมอุตสาหกรรมบางปะอิน จ.พระนครศรีอยุธยา 
ถูกน้ำท่วมเมื่อปลายปี 54 ระบุ พอใจต่อแผนบริหารจัดการน้ำและแผนรับมือน้ำท่วม 
ยืนยันจะเดินหน้าผลิตในไทยต่อไป(นสพ.มติชน) 
*รมช.คมนาคม เผยว่า กระทรวงคมนาคมอยู่ระหว่างปรับแบบโครงการก่อสร้างรถไฟฟ้า 
เชื่อมสนามบินสุวรรณภูมิ-ดอนเมือง ช่วงพญาไท-บางซื่อ-ดอนเมือง ระยะทาง 22 กม. 
มูลค่าราว 3.3 หมื่นลบ. โดยจะใช้โครงสร้างดังกล่าวรองรับระบบรถไฟความเร็วสูง 
สายเหนือ และตะวันออกเฉียงเหนือ ที่จะดำเนินการในอนาคตด้วย (นสพ.ไทยรัฐ) 

การเมือง 

*ครม.มีมติให้คณะกรรมการกฤษฎีกาไปศึกษา และวิเคราะห์คำวินิจฉัยกลางและคำวินิจฉัย 
ส่วนตน ของตุลาการศาลรัฐธรรมนูญอย่างละเอียด ก่อนเสนอครม.อีกครั้ง เพื่อพิจารณา 
ว่าจะเดินหน้าลงมติวาระ 3 ร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ มาตรา 291 ได้หรือไม่ 
*"ร.ต.อ.เฉลิม" ระบุว่า หากพรรคเพื่อไทยจะเดินหน้าการลงมติวาระ 3 ร่างแก้ไข 
รัฐธรรมนูญ มาตรา 291 เชื่อว่า อาจมีผู้ไปยื่นคำร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญ โดยกล่าว 
หาพรรคอาจเข้าข่ายขัดคำสั่งศาลรัฐธรรมนูญ จนนำไปสู่การพิจารณากรณียุบพรรคได้ 
*"สมศักดิ์" สั่ง "วิปรัฐ-วิปฝ่ายค้าน-วิปวุฒิ" เดินหน้าถกแนวทางแก้รัฐธรรมนูญ 
เป็นรายมาตรา เชื่อยุติขัดแย้งได้ ขณะที่ 416 ส.ส.สว.โยนรัฐสภาตัดสินใจ 
ศาลรัฐธรรมนูญทำคำวินิจฉัยกลางเสร็จแล้ว ไม่เกิน 28 ก.ค.ลงราชกิจจานุเบกษา 
(นสพ.กรุงเทพธุรกิจ)


SET:คาดหุ้นไทยวันนี้ปรับขึ้น ปัจจัยหนุนจากราคาน้ำมัน-ยังเก็งกำไรหุ้นแบงก์ 

*นักวิเคราะห์หลักทรัพย์ คาดหุ้นไทยวันนี้ปรับขึ้น ตามตลาดหุ้นต่างประเทศ และ 
ราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกที่ปรับขึ้น ช่วยหนุนราคาหุ้นในกลุ่มพลังงาน ประกอบกับ 
เชื่อว่า นักลงทุนยังเก็งกำไรหุ้นแบงก์ จากผลประกอบการไตรมาส 2/55 
*ตลาดหุ้นสหรัฐปิดปรับขึ้นในวันอังคาร โดยดัชนีดาวโจนส์ บวก 0.62% หลังบริษัท 
โคคา-โคลา และบริษัทโกลด์แมน แซคส์ เผยผลกำไรสูงเกินคาด และนายเบน เบอร์นันเก้ 
ประธานธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด) เปิดโอกาสสำหรับกระตุ้นเศรษฐกิจมากขึ้น 
*ราคาน้ำมันดิบในตลาดล่วงหน้า NYMEX ส่งมอบเดือนส.ค.ปิดวานนี้ ปรับขึ้น 79 เซนต์ 
หรือ 0.89% ปิดที่ 89.22 ดอลลาร์/บาร์เรล ขณะที่ประธานเฟด ได้ให้การต่อคณะ 
กรรมาธิการประจำวุฒิสภา ที่บ่งชี้ว่ามีความเป็นไปได้ ที่เฟดจะดำเนินมาตรการ 
กระตุ้นเศรษฐกิจในอนาคต แต่ไม่ได้บ่งชี้ว่าเฟดใกล้ที่จะดำเนินมาตรการดังกล่าว 
*วันอังคารต่างชาติ ซื้อสุทธิ 640.28 ลบ.จากวันจันทร์ ซื้อสุทธิ 122.69 ลบ. 
*เช้านี้บาท/ดอลลาร์ อยู่ที่ 31.60/64 จากเมื่อวันอังคารอยู่ที่ 31.56/58 
*นักวิเคราะห์มองแนวรับที่ 1,220 จุด ส่วนแนวต้านที่ 1,230 และ 1,235 จุด 

"เรายังคงมอง ตลาดจะปรับขึ้นต่อในวันนี้ แต่ก็ต้องระวังแรงขายทำกำไร 
ที่จะเกิดขึ้นด้วย เพราะหุ้นไทยปรับตัวขึ้นมา 3 วันแล้ว ถ้าวันนี้ขึ้นอีกก็เป็นวันที่ 4" 
นายปริญทร์ กิจจาทรพิทักษ์ ผู้บริหารสายงานวิเคราะห์หลักทรัพย์ และกลยุทธ์การลงทุน 
บล.เคทีบี (ประเทศไทย) กล่าว 
เขามองว่า ปัจจัยหลักที่จะหนุนตลาดหุ้นไทยวันนี้ เป็นเรื่องราคาน้ำมันดิบในตลาด 
โลกที่ปรับขึ้น ซึ่งจะช่วยหนุนหุ้นในกลุ่มพลังงาน รวมทั้งเชื่อว่านักลงทุนยังเก็งกำไร 
หุ้นกลุ่มแบงก์ จากการประกาศผลประกอบการไตรมาส 2/55 ด้วย 
อย่างไรก็ตาม เห็นว่าหลายวันที่ผ่านมา ตลาดหุ้นไทยปรับขึ้นมาต่อเนื่อง ดังนั้น 
หากดัชนีปรับขึ้นต่อ ก็อาจมีแรงขายทำกำไร โดยมองระดับ 1,230 จุดขึ้นไป ต้องใช้ 
ความระมัดระวัง 

ดัชนีตลาดหุ้นสำคัญ 
*ดัชนีตลาดหลักทรัพย์เมื่อวันอังคาร ปิดบวก 9.96 จุด หรือ 0.82% มาที่ 1,224.21 
ด้วยมูลค่าการซื้อขายที่ 29,126.12 ล้านบาท 
*ดัชนีอุตสาหกรรมดาวโจนส์ เมื่อวันอังคาร ปิดบวก 78.33 จุด หรือ 0.62% มาที่ 
12,805.54 และดัชนีแนสแดค ปิดบวก 13.10 จุด หรือ 0.45% มาที่ 2,910.04 
*ตลาดหุ้นในภูมิภาคเช้านี้ ส่วนใหญ่ลบ โดยตลาดหุ้นสิงคโปร์ ลบ 0.08%, เกาหลีใต้ 
ลบ 0.85%, ไต้หวัน ลบ 0.62%, ฮ่องกง ลบ 0.69% และตลาดหุ้นญี่ปุ่น บวก 0.23% 

จับตาหุ้น 
*GRAMMY เผยจะใช้เงินหลักหมื่นล้านบาท ซื้อคอนเทนท์หนุนธุรกิจสื่อ 
*KK เผย Q2/55 กำไรสุทธิเพิ่มเป็น 817.68 ลบ. 
*กลุ่มยานยนต์ หลังโตโยต้าเพิ่มเป้าตลาดรถยนต์ปีนี้ที่ 1.2 ล้านคัน, 
H1 ทำได้กว่า 6 แสนคัน 
*PTT ศึกษาแผนลงทุนอาเซียนรองรับ AEC, เล็งตั้งคอมเพล็กซ์พม่า-เวียดนาม 
*SIRI คงเป้ารายได้ปีนี้ 2.8 หมื่นลบ.,เน้นคอนโดฯ หลังกระแสตอบรับดี

No comments:

Post a Comment