Sunday, June 24, 2012

สรุปข่าวเศรษฐกิจรอบโลก 25 มิย 55

ภาวะตลาดหุ้นประจำวันที่ 22 มิ.ย. 

ดัชนี-ตลาด ปิดที่ระดับ เปลี่ยนแปลง 

ดาวโจนส์-ตลาดหุ้นนิวยอร์ค 12,640.78 + 67.21 
FTSE-ตลาดหุ้นลอนดอน 5,513.69 - 52.67 
DAX-ตลาดหุ้นเยอรมนี 6,263.25 - 79.88 
CAC-40-ตลาดหุ้นฝรั่งเศส 3,090.90 - 23.32 
คอมโพสิต-ตลาดหุ้นมะนิลา 5,120.07 + 10.64 
เวทเต็ด-ตลาดหุ้นไต้หวัน 7,222.05 - 57.00 
S&P/ASX-ตลาดหุ้นออสเตรเลีย 4,048.20 - 39.40 
นิกเกอิ-ตลาดหุ้นโตเกียว 8,798.35 - 25.72 
คอมโพสิต-ตลาดหุ้นโซล 1,847.39 - 41.76 
ฮั่งเส็ง-ตลาดหุ้นฮ่องกง 18,995.13 - 269.94 
คอมโพสิต-ตลาดหุ้นมาเลเซีย 1,603.07 + 1.64 
FTSE STI-ตลาดหุ้นสิงคโปร์ 2,828.09 - 2.06 
คอมโพสิต-ตลาดหุ้นจาการ์ตา 3,889.52 - 12.26 
SET-ตลาดหุ้นไทย 1,152.91 - 6.14 
SET-50-ตลาดหุ้นไทย 800.07 - 4.82 
SET-100-ตลาดหุ้นไทย 1,738.74 - 10.20 

ราคาพันธบัตรปิดร่วง -- ราคาพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐร่วงลงในวันศุกร์ ขณะที่นักลงทุนขาย 
พันธบัตรออกมาก่อนการประมูลพันธบัตรวงเงิน 9.9 หมื่นล้านดอลลาร์ในสัปดาห์นี้ และการประชุมผู้นำ 
ยุโรป ซึ่งกำลังถูกกดดันให้แก้ไขปัญหาทางการคลังของภูมิภาค ทั้งนี้ ราคาพันธบัตรอายุ 10 ปีปิดลดลง 
16/32 สู่ระดับ 100-23/32 โดยมีผลตอบแทน 1.673% และราคาพันธบัตรอายุ 30 ปีปิดร่วงลง 
1-14/32 สู่ระดับ 104-31/32 โดยมีผลตอบแทน 2.756% 

ยูโรแข็งค่าเทียบดอลล์หลังอีซีบีคลายกฏปล่อยกู้ -- ยูโรปรับตัวขึ้นเมื่อเทียบกับดอลลาร์ในวัน 
ศุกร์หลังร่วงลงต่ำสุดในรอบกว่า 6 เดือน โดยยูโรได้แรงหนุนจากการดำเนินการของธนาคารกลางยุโรป 
(อีซีบี) ในการทำให้ธนาคารต่างๆ สามารถระดมทุนได้ง่ายขึ้น ทั้งนี้ ดอลลาร์อยู่ที่ 80.440 เยน เทียบกับ 
ระดับปิดตลาดวันพฤหัสบดีที่ 80.250 เยน ส่วนยูโรอยู่ที่ 1.2563 ดอลลาร์และ 101.06 เยน เทียบกับ 
ระดับปิดตลาดวันพฤหัสบดีที่ 1.2541 ดอลลาร์และ 100.69 เยน 

คำสั่งซื้อชดเชยหนุนน้ำมันดิบพุ่งขึ้น 1.56 ดอลล์ -- ราคาน้ำมันดิบในตลาดล่วงหน้า NYMEX 
ปิดพุ่งขึ้นราว 2% ในวันศุกร์ หลังจากดิ่งลง 4% ในวันพฤหัสบดี โดยราคาน้ำมันได้รับแรงหนุนจากคำสั่ง 
ซื้อชดเชย ในขณะที่มีความเป็นไปได้ที่พายุลูกใหม่อาจเป็นอุปสรรคขัดขวางการผลิตน้ำมันในอ่าวเม็กซิโก 
ทั้งนี้ ราคาน้ำมันดิบส่งมอบเดือนส.ค.ทะยานขึ้น 1.56 ดอลลาร์ หรือ 2.0% มาปิดตลาดที่ 79.76 
ดอลลาร์ต่อบาร์เรล 

ราคาทองขยับขึ้นเล็กน้อย -- ราคาทองสปอตที่ตลาดสหรัฐขยับขึ้น 3.28 ดอลลาร์ หรือ 0.2% 
สู่ 1,568.70 ดอลลาร์/ออนซ์ในช่วงท้ายตลาดวันศุกร์ หลังจากดิ่งลงอย่างรุนแรงในวันพฤหัสบดี โดย 
ราคาทองทรงตัวเมื่อเทียบกับช่วงต้นปีนี้ และรูดลงกว่า 3% จากสัปดาห์ที่แล้ว โดยได้รับแรงกดดันจาก 
ความกังวลเรื่องภาวะเงินฝืด และจากการที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ไม่ได้ดำเนินมาตรการกระตุ้น 
เศรษฐกิจอย่างแข็งกร้าว ทั้งนี้ ราคาทองส่งมอบเดือนส.ค.ที่ตลาด COMEX ปิดบวก 1.40 ดอลลาร์ ที่ 
1,566.90 ดอลลาร์/ออนซ์ และราคาโลหะเงินส่งมอบเดือนก.ค.ปิดลดลง 17.80 เซนต์ ที่ 26.661 
ดอลลาร์/ออนซ์ ส่วนที่ตลาด NYMEX ราคาพลาตินั่มส่งมอบเดือนก.ค.ปิดลดลง 7.40 ดอลลาร์ ที่ 1,431.20 
ดอลลาร์/ออนซ์ และราคาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนก.ย.ปิดลดลง 1.35 ดอลลาร์ ที่ 607.20 ดอลลาร์/ออนซ์




SET:ปัจจัยจับตาการลงทุนวันนี้ ตลาดหุ้นสหรัฐปิดบวก-ราคาน้ำมันดิบปรับขึ้น 


ต่างประเทศ

*ตลาดหุ้นสหรัฐปิดปรับขึ้นในวันศุกร์ นำโดยหุ้นกลุ่มธนาคาร โดยดัชนีดาวโจนส์ บวก
0.53% ขณะดัชนี S&P 500 ดีดตัวขึ้นจากระดับต่ำสุดอันดับสองของปีนี้ โดยปัจจัย
ที่ช่วยหนุนตลาด คือการที่ผู้นำเยอรมนี, ฝรั่งเศส, อิตาลีและสเปน ได้ตกลงสมทบ
เงินทุน 1.30 แสนล้านยูโร (1.56 แสนล้านดอลลาร์)เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจในยูโรโซน
*เมื่อวันศุกร์ ตลาดหุ้นเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ส่วนใหญ่ปรับลง โดยนักลงทุนวิตก
ต่อการขยายตัวของเศรษฐกิจโลก หลังมีการเปิดเผยข้อมูลภาคการผลิตที่อ่อนแอจาก
สหรัฐ, ยุโรป และจีน โดยผลสำรวจพบว่า ภาคการผลิตของสหรัฐมีอัตราขยายตัว
ต่ำสุดในรอบ 11 เดือนในเดือนมิ.ย. ขณะที่ภาคเอกชนของยูโรโซน หดตัวลงมากที่สุด
ในรอบ 3 ปี และภาคการผลิตของจีนหดตัวลงเป็นเดือนที่ 8
*ราคาน้ำมันดิบในตลาดล่วงหน้า NYMEX ส่งมอบเดือนส.ค.ปิดวันศุกร์ ทะยานขึ้น 1.56
ดอลลาร์ หรือ 2.0% ปิดที่ 79.76 ดอลลาร์/บาร์เรล หลังจากดิ่งลง 4% ในวันพฤหัสฯ
โดยราคาน้ำมันได้รับแรงหนุนจากคำสั่งซื้อชดเชย ในขณะที่มีความเป็นไปได้ ที่พายุ
ลูกใหม่ อาจเป็นอุปสรรคขัดขวางการผลิตน้ำมัน ในอ่าวเม็กซิโก
*ดัชนีค่าระวางเรือ(Baltic Dry Index) ปิดวันศุกร์ ทรงตัวที่ 978
ขณะที่ระดับสูงสุดของปีนี้อยู่ที่ 1624 และระดับต่ำสุดของปีนี้อยู่ที่ 647

เศรษฐกิจทั่วไป

*เมื่อวันเสาร์ธปท.ร่วมลงนามกับธนาคารกลางสิงคโปร์ ในบันทึกข้อตกลงในการใช้
หลักทรัพย์ข้ามพรมแดนระหว่างกัน
เป็นหลักประกันในการปล่อยสภาพคล่องเพื่อส่งเสริม
เสถียรภาพการเงินของทั้งสองประเทศ
*สำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน ระบุว่ายังมีความจำเป็นที่จะต้องปรับโครงสร้าง
ราคาก๊าซ LPG ภาคขนส่ง แม้ล่าสุดราคา LPG ในตลาดโลก ลดลงราวครึ่งหนึ่งจาก
ไตรมาส 1/55 ขณะที่ตามแผนรัฐบาลจะตรึงราคา LPG ขนส่งถึง กลางเดือนส.ค.
*คณะอนุกรรมการพิจารณาโครงการตามมาตรการส่งเสริมการลงทุน เพื่อฟื้นฟูการลงทุน
จากวิกฤตอุทกภัย อนุมัติให้การส่งเสริมการลงทุนแก่ 11 โครงการ มูลค่าเงินลงทุน
รวม 5.23 พันลบ. โดยส่วนใหญ่ยังคงจะลงทุนในพื้นที่เดิม และมี 2 รายขอย้าย
*กบง.มีมติให้เก็บเงินเข้ากองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงสำหรับเบนซิน และดีเซลเพิ่มขึ้น
40 สตางค์/ลิตร หลังราคาน้ำมันตลาดโลกลดลงมาก
*ทีดีอาร์ไอ แนะรัฐบาลเก็บ"กระสุน" ไว้ใช้ในยามจำเป็น โดยไม่ควรใช้นโยบายด้าน
การคลัง กระตุ้นเศรษฐกิจมากเกินไป ขณะวิกฤติหนี้ยูโรโซนมีความไม่แน่นอนมากขึ้น
*"บุญทรง"สั่งวิเคราะห์เชิงลึก ผลกระทบส่งออกทางอ้อมเข้าตลาดอียู จากจีน ญี่ปุ่น
เกาหลีใต้ อินเดีย และ อาเซียน หวั่นไทยได้รับผลกระทบซ้ำ หลังจากตัวเลขส่งออก
ตรงเข้าอียูลดลง เร่งแก้เกมหาช่องทางตลาดใหม่รับออเดอร์หด นายกฯ ร่วมเวิร์คชอป
ดันยอดส่งออก 29 มิ.ย.นี้ มั่นใจหลังเดือนพ.ค. ส่งออกกระเตื้อง พร้อมคาดโทษ
ทูตพาณิชย์ทำงานไม่ดีย้ายทันที(นสพ.กรุงเทพธุรกิจ)
*นักวิชาการ คาดปีนี้ ปริมาณน้ำฝนเกินค่าเฉลี่ยแค่ 20% อยู่ในเกณฑ์ปลอดภัยแต่
ยอมรับมีพื้นที่เสี่ยง บริเวณลุ่มต่ำแม่น้ำยม-แม่น้ำน่านยังต้องเผชิญน้ำท่วม
"อานนท์" เผยรัฐบาลเตรียมคลอดยุทธศาสตร์จัดการน้ำครั้งใหญ่ในประวัติศาสตร์
คาดเห็นมาตรการในสิ้นปีนี้(นสพ.กรุงเทพธุรกิจ)
*ผู้บริหารกลุ่มปตท. ชี้ราคาน้ำมันดิ่ง ฉุดผลประกอบการไตรมาส 3 กลุ่มโรงกลั่น-
ปิโตรเคมี จากเดิมคาดว่าจะฟื้นตัวช่วงไตรมาส 2 ที่ขาดทุนสต็อกน้ำมัน เตือน
นักลงทุนเฝ้าระวังสถานการณ์ใกล้ชิด ไม่ควรมองโลกแง่ดีเกินไป ด้านโบรกเกอร์ฯ
ระบุหุ้นน้ำมันดิ่งตามราคาตลาดโลก เดินหน้าปรับลดประมาณการกำไรปีนี้ลง แนะ
นักลงทุนสะสมในช่วงขาลง(นสพ.กรุงเทพธุรกิจ)
*ธปท.ชะลอแผนผ่อนคลายกฎเกณฑ์นำเงินออกนอกประเทศ รวมถึงชะลอประกาศใช้แผนแม่บท
เงินทุนเคลื่อนย้ายระหว่างประเทศ หลังวิกฤติยุโรปสาหัสมากขึ้น หันมาเน้นมาตรการ
ส่งเสริมให้เอกชนและธนาคารพาณิชย์ รับมือความเสี่ยงและความผันผวนจากอัตรา
แลกเปลี่ยนที่จะมีมากขึ้นแทน(นสพ.ไทยรัฐ)
*รมว.คลัง ระบุ วิกฤตยูโรโซนจะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจโลกและเศรษฐกิจไทยจึงได้
ปรึกษากับ"พ.ต.ท.ทักษิณ" ว่าควรจะดำเนินการอย่างไรบ้าง นอกจากปรึกษากับรัฐมนตรี
เศรษฐกิจคนสำคัญ เพื่อให้ช่วยประสานและผลักดันนโยบายรับมือ (นสพ.โพสต์ทูเดย์)
*เลขาธิการมูลนิธิเพื่อผู้บริโภค ระบุวันนี้ สหพันธ์องค์กรผู้บริโภค พร้อมสมาชิก
เครือข่ายทั่วประเทศ จะเชิญชวนผู้บริโภคที่เดือดร้อน จากการที่ไม่สามารถรับชม
การแข่งขันฟุตบอลยูโร ร่วมยื่นฟ้องสถานีโทรทัศน์ช่อง3, 5, 9 และจีเอ็มเอ็ม
แกรมมี่ ต่อศาลแพ่ง ฐานละเมิดสิทธิของผู้บริโภคตามรัฐธรรมนูญ โดยจะขอให้ศาล
ไต่สวนฉุกเฉิน พร้อมออกคำสั่งคุ้มครองชั่วคราว(นสพ.โพสต์ทูเดย์)

การเมือง

*นายกรัฐมนตรี กำชับให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติร่วมกับผู้ว่าราชการจังหวัด เร่งแก้
ปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนในทุกด้าน รวมถึงปัญหายาเสพติด,ปราบปรามการ
ทุจริต และการบริหารจัดการน้ำ พร้อมให้เร่งแก้ปัญหากรณีการนำอาวุธปืนมาใช้ก่อ
อาชญากรรมด้วย
*กลุ่มนปช.จะเปิดโรงเรียนสอนประชาธิปไตยให้ประชาชนทั่วประเทศ เพื่อต่อต้าน
รัฐประหาร และกระบวนการที่ไม่เป็นธรรม โดยจะเปิดแห่งแรก วันที่ 14 ก.ค.นี้
ที่ห้างอิมพีเรียล ลาดพร้าว กรุงเทพฯ ซึ่งเป็นที่ทำการของกลุ่ม
*"เสื้อแดง"พรึ่บปิดราชดำเนิน จัด "80 ปียังไม่มีประชาธิปไตย-รำลึกปฏิวัติ 2475"
ตั้งโต๊ะล่า 1 ล้านชื่อถอดถอนตุลาการรธน. จับการ์ดแดงพกปืนปะปนม็อบ "จตุพร"
เตรียมบุกศาลรธน.ถามใช้อำนาจใดขอถอนประกัน ด้านศาลรธน.เล็งขอตร.คุ้มกัน
วันไต่สวนปมแก้รธน. 5-6 ก.ค.ผวา นปช.ขนคนกดดัน ปชป.จี้นายกฯปรามแดง
ฮาร์ดคอร์กดดันศาล (นสพ.กรุงเทพธุรกิจ)
*"สดศรี" หวั่นกรณี "จตุพร" ลงเลือกตั้งซ่อมแทน "การุณ" อาจซ้ำรอยเดิม ต้องขาด
จากสมาชิกพรรคหากติดคุก โยนประธาน กกต.ไม่เลื่อนวาระใบแดง "การุณ"
(นสพ.กรุงเทพธุรกิจ)


SET:คาดหุ้นไทยวันนี้แกว่งช่วงแคบ รอประชุมสุดยอดผู้นำยุโรป-จีนอาจลดดอกเบี้ย 


*นักวิเคราะห์หลักทรัพย์ คาดหุ้นไทยวันนี้แกว่งตัวในกรอบแคบๆ และมีโอกาส 
ปรับลง เนื่องจากนักลงทุนรอดูการประชุมสุดยอดผู้นำยุโรป และกรณีของประเทศจีน 
ที่อาจปรับลดดอกเบี้ย 
*ตลาดหุ้นสหรัฐปิดปรับขึ้นในวันศุกร์ นำโดยหุ้นกลุ่มธนาคาร โดยดัชนีดาวโจนส์ บวก 
0.53% ขณะดัชนี S&P 500 ดีดตัวขึ้นจากระดับต่ำสุดอันดับสองของปีนี้ โดยปัจจัย 
ที่ช่วยหนุนตลาด คือการที่ผู้นำเยอรมนี, ฝรั่งเศส, อิตาลีและสเปน ได้ตกลงสมทบ 
เงินทุน 1.30 แสนล้านยูโร (1.56 แสนล้านดอลลาร์)เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจในยูโรโซน 
*ราคาน้ำมันดิบในตลาดล่วงหน้า NYMEX ส่งมอบเดือนส.ค.ปิดวันศุกร์ ทะยานขึ้น 1.56 
ดอลลาร์ หรือ 2.0% ปิดที่ 79.76 ดอลลาร์/บาร์เรล หลังจากดิ่งลง 4% ในวันพฤหัสฯ 
โดยราคาน้ำมันได้รับแรงหนุนจากคำสั่งซื้อชดเชย ในขณะที่มีความเป็นไปได้ ที่พายุ 
ลูกใหม่ อาจเป็นอุปสรรคขัดขวางการผลิตน้ำมัน ในอ่าวเม็กซิโก 
*วันศุกร์ต่างชาติขายสุทธิ 1,790.25 ลบ.จากวันพฤหัสบดี ขายสุทธิ 742.09 ลบ. 
*เช้านี้บาท/ดอลลาร์ อยู่ที่ 31.85/90 จากเมื่อวันศุกร์ อยู่ที่ 31.70/77 
*นักวิเคราะห์มองแนวรับที่ 1,143 ส่วนแนวต้านที่ 1,165 จุด 

"วันนี้ เรามองว่า ตลาดน่าจะแกว่งตัว sideways แต่ก็มีโอกาสปรับลงได้ เพราะ 
ไม่มีปัจจัยอะไรที่ชัดเจน" นายเทิดศักดิ์ ทวีธีระธรรม ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายวิเคราะห์ 
บล.เอเซีย พลัส กล่าว 
เขา กล่าวว่า ปัจจัยที่มีน้ำหนักในช่วงนี้ ยังคงเป็นปัจจัยจากภายนอก โดยเฉพาะ 
เรื่องการประชุมสุดยอดผู้นำยุโรป และการพิจารณาเรื่องอัตราดอกเบี้ยของจีน ทึ่คาดการณ์ 
กันว่า จีนอาจปรับลดอัตราดอกเบี้ย ซึ่งทั้งสองประเด็นดังกล่าว เป็นปัจจัยที่นักลงทุน 
รอดูความชัดเจน 

ดัชนีตลาดหุ้นสำคัญ 
*ดัชนีตลาดหลักทรัพย์เมื่อวันศุกร์ ปิดลบ 6.14 จุด หรือ 0.53% มาที่ 
1,152.91 ด้วยมูลค่าการซื้อขายที่ 25,987.79 ล้านบาท 
*ดัชนีอุตสาหกรรมดาวโจนส์เมื่อวันศุกร์ ปิดบวก 67.21 จุด หรือ 0.53% มาที่ 
12,640.78 และดัชนีแนสแดค ปิดบวก 33.33 จุด หรือ 1.17% มาที่ 2,892.42 
*ตลาดหุ้นในภูมิภาคเช้านี้ ส่วนใหญ่ปรับลง โดยตลาดหุ้นสิงคโปร์ ลบ 0.43%, ญี่ปุ่น 
ลบ 0.1%, เกาหลีใต้ ลบ 1.69%, ไต้หวัน ลบ 0.63% และฮ่องกง ลบ 0.21% 

จับตาหุ้น 
*MILL เพิ่มเป้ายอดขายปีนี้เป็น 2 หมื่นลบ. จากเดิม 1.7 หมื่นลบ. 
*RPC ยื่นอุทธรณ์ต่อศาลแพ่งแล้ว ขอให้ยกเลิกคำสั่งที่ห้ามการจ่ายเงินปันผล 
*SABINA เผย บอร์ดอนุมัติแตกพาร์ เหลือหุ้นละ 1 บาท จาก 5 บาท 
*SORKON คาด Q2/55 มีกำไรพิเศษราว 40 ลบ.กรณีบริษัทลูกขายหุ้นบริษัท 
*AOT คาดส.ค.เริ่มบินที่ดอนเมืองได้, เปิดบริการเต็มรูปแบบ ต.ค.

No comments:

Post a Comment