Tuesday, June 19, 2012

สรุปข่าวเศรษฐกิจรอบโลก 20 มิย 55

ภาวะตลาดหุ้นประจำวันที่ 19 มิ.ย. 

ดัชนี-ตลาด ปิดที่ระดับ เปลี่ยนแปลง 

ดาวโจนส์-ตลาดหุ้นนิวยอร์ค 12,837.33 + 95.51 
FTSE-ตลาดหุ้นลอนดอน 5,586.31 + 95.22 
DAX-ตลาดหุ้นเยอรมนี 6,363.36 + 115.16 
CAC-40-ตลาดหุ้นฝรั่งเศส 3,117.92 + 51.73 
คอมโพสิต-ตลาดหุ้นมะนิลา 5,081.61 + 31.20 
เวทเต็ด-ตลาดหุ้นไต้หวัน 7,273.13 - 8.37 
S&P/ASX-ตลาดหุ้นออสเตรเลีย 4,12.300 - 13.60 
นิกเกอิ-ตลาดหุ้นโตเกียว 8,655.87 - 65.15 
คอมโพสิต-ตลาดหุ้นโซล 1,891.77 + 0.06 
ฮั่งเส็ง-ตลาดหุ้นฮ่องกง 19,416.67 - 11.14 
คอมโพสิต-ตลาดหุ้นมาเลเซีย 1,594.98 + 12.25 
FTSE STI-ตลาดหุ้นสิงคโปร์ 2,842.41 + 18.19 
คอมโพสิต-ตลาดหุ้นจาการ์ตา 3,880.82 + 20.67 
SET-ตลาดหุ้นไทย 1,173.09 + 9.68 
SET-50-ตลาดหุ้นไทย 816.90 + 7.02 
SET-100-ตลาดหุ้นไทย 1,773.03 + 14.90 

ราคาพันธบัตรปิดลดลงขณะหุ้นพุ่ง -- ราคาพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐปรับตัวลงในวันอังคาร 
ขณะที่การพุ่งขึ้นของตลาดหุ้นได้สกัดกั้นแรงซื้อพันธบัตรก่อนการออกแถลงการณ์ของธนาคารกลาง 
สหรัฐ (เฟด) ซึ่งอาจจะออกมาตรการใหม่เพื่อกระตุ้นการขยายตัวทางเศรษฐกิจ ทั้งนี้ ราคาพันธ 
บัตรอายุ 10 ปีปิดลดลง 12/32 สู่ระดับ 101-06/32 โดยมีผลตอบแทน 1.621% และราคาพันธ 
บัตรอายุ 30 ปีปิดลดลง 17/32 สู่ระดับ 105-12/32 โดยมีผลตอบแทน 2.735% 

ยูโรทะยานเทียบดอลล์,เยน ขณะรอผลประชุมเฟด -- ยูโรทะยานขึ้นเมื่อเทียบกับดอล 
ลาร์และเยนในวันอังคาร โดยได้แรงหนุนจากข่าวเชิงบวกเกี่ยวกับกรีซ และการปรับตัวขึ้นของตลาด 
หุ้นวอลล์สตรีทกระตุ้นให้นักลงทุนเพิ่มสถานะการลงทุนที่มีความเสี่ยง ทั้งนี้ ดอลลาร์อยู่ที่ 78.920 เยน 
เทียบกับระดับปิดตลาดวันจันทร์ที่ 79.100 เยน ส่วนยูโรอยู่ที่ 1.2685 ดอลลาร์และ 100.15 เยน 
เทียบกับระดับปิดตลาดวันจันทร์ที่ 1.2575 ดอลลาร์และ 99.510 เยน 

คาดเฟดกระตุ้นศก.หนุนน้ำมันดิบปรับขึ้น 76 เซนต์ -- ราคาน้ำมันดิบในตลาดล่วงหน้า 
NYMEX ดีดขึ้นในวันอังคาร ในขณะที่นักลงทุนคาดการณ์ว่า ผู้กำหนดนโยบายของธนาคารกลางสหรัฐ 
(เฟด) อาจจะตกลงกันดำเนินมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติม และคาดการณ์ว่าสต็อกน้ำมันดิบ 
สหรัฐอาจร่วงลงในสัปดาห์ที่แล้ว ทั้งนี้ ราคาน้ำมันดิบส่งมอบเดือนก.ค.ปรับขึ้น 76 เซนต์ หรือ 
0.91% มาปิดตลาดที่ 84.03 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล 

ทองร่วงลงขณะตลาดรอผลประชุมเฟด -- ราคาทองสปอตที่ตลาดสหรัฐร่วงลง 7.63 
ดอลลาร์ หรือ 0.5% สู่ 1,620.31 ดอลลาร์/ออนซ์ในช่วงท้ายตลาดวันอังคาร ซึ่งถือเป็นการ 
ร่วงลงครั้งแรกในรอบ 8 วันทำการ ในขณะที่นักลงทุนออกไปรอดูท่าทีอยู่นอกตลาดเพื่อรอดูผลการ 
ประชุมของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในวันพุธนี้ ทั้งนี้ ราคาทองส่งมอบเดือนส.ค.ที่ตลาด COMEX 
ปิดลดลง 3.80 ดอลลาร์ ที่ 1,623.20 ดอลลาร์/ออนซ์ และราคาโลหะเงินส่งมอบเดือนก.ค.ปิด 
ลดลง 30.30 เซนต์ ที่ 28.368 ดอลลาร์/ออนซ์ ส่วนที่ตลาด NYMEX ราคาพลาตินั่มส่งมอบเดือน 
ก.ค.ปิดลดลง 3.60 ดอลลาร์ ที่ 1,480.50 ดอลลาร์/ออนซ์ และราคาพัลลาเดียมส่งมอบเดือน 
ก.ย.ปิดลดลง 3.75 ดอลลาร์ ที่ 629.40 ดอลลาร์/ออนซ์




SET:ปัจจัยจับตาการลงทุนวันนี้ ตลาดหุ้นสหรัฐและราคาน้ำมันดิบปรับขึ้น 


ต่างประเทศ 

*ตลาดหุ้นสหรัฐปิดบวกในวันอังคาร โดยดัชนีดาวโจนส์ บวก 0.75% จากความหวังที่ว่า 
ธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด) จะตกลงขยายมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ ขณะที่เศรษฐกิจ 
เผชิญความยากลำบากในการฟื้นตัว และวิกกฤติหนี้ยูโรโซนเลวร้ายลง 
*วานนี้ ตลาดหุ้นเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ส่วนใหญ่ปรับตัวขึ้น โดยตลาดหุ้นมาเลเซีย 
แตะระดับสูงสุดรอบ 2 เดือน แต่นักลงทุนลดการถือครองสินทรัพย์เสี่ยง ขณะมีความ 
กังวล หลังอัตราผลตอบแทนพันธบัตรของสเปนพุ่งสูงเป็นประวัติการณ์ ส่งผลให้ตลาด 
หุ้นเวียดนามร่วงลง 1% แต่ฟิลิปปินส์, อินโดนีเซีย และ สิงคโปร์ต่างปิดในแดนบวก 
*ราคาน้ำมันดิบในตลาดล่วงหน้า NYMEX ส่งมอบเดือนก.ค.ปิดวานนี้ปรับขึ้น 76 เซนต์ 
หรือ 0.91% ปิดที่ 84.03 ดอลลาร์/บาร์เรล ขณะที่นักลงทุนคาดการณ์ว่า ผู้กำหนด 
นโยบายของเฟด อาจจะตกลงกันดำเนินมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติม และ 
คาดการณ์ว่า สต็อกน้ำมันดิบสหรัฐอาจร่วงลง ในสัปดาห์ที่แล้ว 
*ดัชนีค่าระวางเรือ(Baltic Dry Index) ปิดวานนี้ บวก 16 จุด หรือ 1.71% สู่ 
ระดับ 954 โดยระดับสูงสุดของปีนี้อยู่ที่ 1624 และระดับต่ำสุดของปีนี้อยู่ที่ 647 
*ประธานสหภาพยุโรป เปิดเผยว่า คณะทำงานจากกลุ่มทรอยก้า ซึ่งประกอบด้วยสหภาพ 
ยุโรป(อียู), กองทุนการเงินระหว่างประเทศ(ไอเอ็มเอฟ) และธนาคารกลางยุโรป 
(อีซีบี) จะเดินทางไปยังกรุงเอเธนส์ทันทีที่กรีซเสร็จสิ้นการจัดตั้งรัฐบาล เพื่อประเมิน 
แนวทางการบรรลุเป้าหมายของมาตรการช่วยเหลือทางการเงิน 

เศรษฐกิจทั่วไป 

*ครม.รับทราบ 10 แนวทาง เตรียมการรับมือวิกฤติเศรษฐกิจยุโรป ซึ่งได้จากการ 
ประชุมหารือเพื่อติดตามภาวะเศรษฐกิจ เมื่อวันที่ 15 มิ.ย.ที่ผ่านมา โดยให้แต่ละ 
หน่วยงานเตรียมมาตรการรับมือ พร้อมตั้งทีมงานติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด 
*บลจ.กสิกรไทย มองปัญหาหนี้ยุโรป จะยังคงยืดเยื้อต่อไป และเป็นปัจจัยกดดันการ 
ลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยง ทำให้การบริหารพอร์ตกองทุนหุ้นของบริษัทช่วงนี้ ยังเน้น 
กลุ่มที่ defensive และกลุ่มที่พึ่งพาการเติบโตของเศรษฐกิจในประเทศ 
*บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง(ประเทศไทย) คาดดัชนีตลาดหุ้นไทยในครึ่งปีหลัง มีโอกาสแตะ 
ระดับ 1,320 จุด โดยมองว่าตลาดหุ้นยังมีความผันผวน และยังต้องติดตามปัญหาหนี้ 
ของยุโรป 
*บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด เผยยอดจำหน่ายรถยนต์เดือน พ.ค. 
เพิ่มขึ้น 107.6% มาที่ 115,943 คัน ซึ่งนับเป็นสถิติยอดขายต่อเดือน สูงสุดเป็น 
ประวัติการณ์ ขณะที่คาดยอดขายในเดือนมิ.ย.น่าจะเติบโตต่อเนื่อง หลังการผลิต 
จากทุกค่ายกลับเข้าสู่ภาวะปกติหลังน้ำท่วม 
*กรุงเทพโพลล์ ระบุว่า ประชาชน 60.8% มีความกังวลค่อนข้างน้อยถึงไม่กังวลเลย 
ว่ากรุงเทพฯและปริมณฑล จะเกิดน้ำท่วมอีกในปีนี้ ขณะที่ 39.2% กังวลค่อนข้างมาก 
ถึงมากที่สุด 
*บมจ.ปตท.ปรับลดราคาขายปลีกน้ำมันกลุ่มเบนซิน และแก๊สโซฮอล์ลงใน อัตรา 40 
สตางค์/ลิตร และ E85 ในอัตรา 20 สตางค์/ลิตรในวันนี้ 
*ครม.เห็นชอบให้ ท่าอากาศยานดอนเมือง เปิดให้บริการเชิงพาณิชย์ โดยเบื้องต้น 
คาดเริ่มในวันที่ 1 ก.ค.55 ซึ่งจะสามารถให้บริการทั้งเส้นทางบินในประเทศ,บริการ 
สำหรับเครื่องบินเช่าเหมาลำ และ รองรับสายการบินต้นทุนต่ำ เพื่อลดความแออัด 
ของท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ 
*เอกชนยังไม่มั่นใจ "แผนรับมือน้ำท่วม" ติงรัฐยังล่าช้า เผยอุตสาหกรรมขนาดเล็ก 
9 พันโรงงาน ยังไม่ฟื้นจากภัยพิบัติ ขณะที่สมาคมประกันภัยไฟเขียวประกันข้าวนาปี 
น้ำท่วม ด้านกรรมการยุทธศาสตร์น้ำ ยอมรับมีจุดอ่อนบริหารจัดการ แยกแผนคุม 
น้ำท่วม-ภัยแล้ง ส่งผลแก้ปัญหายาก (นสพ.กรุงเทพธุรกิจ) 
*ครม.สั่ง"แบงก์ชาติ-คลัง"เตรียมมาตรการรับมือวิกฤติยุโรป พร้อมอัดฉีดสภาพคล่อง 
ใช้ดอกเบี้ย ป้องกันเงินไหลออก ตั้งกองทุนพยุงหุ้น หากตลาดทุนได้รับผลกระทบ 
กำชับกระทรวงเศรษฐกิจ เตรียมแผนรับมือล่วงหน้า สศช.ประเมินเลวร้ายสุดยูโร 
ล่มสลาย ไม่แรงเท่าซับไพร์ม(นสพ.กรุงเทพธุรกิจ) 
*คณะอนุกรรมการกิจการโทรคมนาคม งัดฐานตัวเลขกำหนดราคาเริ่มต้นไลเซ่น 3 จี 
คาดยึดสูตรฐานเดิมจาก "เนร่า" ตามโมเดล 3 แบบ เชื่อเคาะราคาไม่เกิน 4.3 
พันล้านบาท ด้าน"เศรษฐพงค์"เตรียมชงบอร์ด กทค.วันนี้(นสพ.กรุงเทพธุรกิจ) 

การเมือง 

*ครม.เห็นชอบต่ออายุ พ.ร.ก.การบริหารราชการ ในสถานการณ์ฉุกเฉินในพื้นที่จังหวัด 
ชายแดนภาคใต้ อีก 3 เดือน โดยให้ใช้บังคับตั้งแต่วันที่ 20 มิ.ย.-19 ก.ย.55 
เนื่องจากยังมีความจำเป็น 
*"นพดล" เผย"ทักษิณ" หารือกับ "ยิ่งลักษณ์" เป็นครั้งคราว คาดปรับครม.หลังศึก 
ซักฟอก กลุ่มบ้านเลขที่ 111 จ่อเสียบคลัง-มท.1"กิตติรัตน์-ยงยุทธ"ส่อเหลือแค่ 
รองนายกฯ(นสพ.กรุงเทพธุรกิจ) 
*"วิชา"เผยเตรียมข้อมูลคดีที่ดินอัลไพน์ เพื่อขอมติที่ประชุมใหญ่ ป.ป.ช.พิจารณา 
ความผิด "ยงยุทธ วิชัยดิษฐ" 21 มิ.ย.นี้ ก่อนส่งอัยการ ระบุหากที่สุดอัยการมี 
ความเห็นไม่ฟ้อง ป.ป.ช.เตรียมฟ้องเอง ชงปลัดมท.คนปัจจุบันพิจารณาไทษวินัย 
(นสพ.กรุงเทพธุรกิจ)


SET:คาดหุ้นไทยวันนี้ปรับขึ้น ตามตลาดหุ้นตปท.,คาดเฟดมีมาตรการกระตุ้นศก. 

*นักวิเคราะห์หลักทรัพย์ คาดหุ้นไทยวันนี้มีโอกาสปรับขึ้นทดสอบระดับ 1,180 จุด 
หลังได้ปัจจัยจากตลาดหุ้นต่างประเทศที่สดใส จากความหวังว่าธนาคารกลางสหรัฐ 
(เฟด) จะมีมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจในการประชุมรอบนี้ 
*ตลาดหุ้นสหรัฐปิดบวกในวันอังคาร โดยดัชนีดาวโจนส์ บวก 0.75% จากความหวังที่ว่า 
ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะตกลงขยายมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ ขณะที่เศรษฐกิจ 
เผชิญความยากลำบากในการฟื้นตัว และวิกกฤติหนี้ยูโรโซนเลวร้ายลง 
*ราคาน้ำมันดิบในตลาดล่วงหน้า NYMEX ส่งมอบเดือนก.ค.ปิดวานนี้ปรับขึ้น 76 เซนต์ 
หรือ 0.91% ปิดที่ 84.03 ดอลลาร์/บาร์เรล ขณะที่นักลงทุนคาดการณ์ว่า ผู้กำหนด 
นโยบายของเฟด อาจจะตกลงกันดำเนินมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติม และคาดการณ์ 
ว่าสต็อกน้ำมันดิบสหรัฐอาจร่วงลง ในสัปดาห์ที่แล้ว 
*วันอังคารต่างชาติขายสุทธิ 1.04 พันลบ.จากวันจันทร์ขายสุทธิ 875.47 ลบ. 
*เช้านี้บาท/ดอลลาร์ อยู่ที่ 31.43/51 เมื่อวันอังคารอยู่ที่ 31.34/44 
*นักวิเคราะห์มองแนวรับที่ 1,170 ส่วนแนวต้านที่ 1,180 และ 1,185 จุด 

"โอกาสที่ดัชนีจะรีบาวด์ขึ้นต่อ เป็นไปได้ในรอบนี้ ลักษณะจะพยายามขึ้นไปทดสอบ 
บริเวณ 1,180 อีกครั้ง...ปัจจัยหนุนยังมาจากต่างประเทศ FOMC ที่ยังน่าจะมีอิทธิพลต่อ 
ตลาด"นายปริญทร์ กิจจาทรพิทักษ์ ผู้บริหารสายงานวิเคราะห์หลักทรัพย์ และกลยุทธ์ 
การลงทุน บล.เคทีบี (ประเทศไทย) กล่าว 
ตลาดหุ้นเอเชียเช้านี้ ส่วนใหญ่ปรับตัวขึ้น ตามตลาดหุ้นสหรัฐ ขณะที่คณะกรรมการ 
กำหนดนโยบายการเงิน (FOMC) ของเฟดเริ่มการประชุมวันแรก เกี่ยวกับนโยบายอัตราดอกเบี้ย 
ในวันอังคาร โดยมีการคาดการณ์เพิ่มขึ้นว่า เฟดอาจจะต่ออายุมาตรการ Operation Twist 
เพื่อพยายามที่จะทำให้อัตราดอกเบี้ยระยะยาวลดลง 
นายปริญทร์ กล่าวว่า ดัชนีน่าจะยังพยายามปรับขึ้นไปทดสอบที่ระดับเดิม 1,180 จุด 
ว่าจะสามารถผ่านไปได้หรือไม่ หากผ่านไปได้ก็จะมีแนวต้านระดับ 1,185 จุดในระยะสั้น แต่ 
ภาพระยะยาวของตลาดยังมีโอกาสปรับขึ้นได้อีก แต่คงต้องมีปัจจัยหนุนอื่นเข้ามาประกอบด้วย 
ส่วนการขายของนักลงทุนต่างชาติ ที่ยังมีออกมาต่อเนื่องนั้น ไม่มีน้ำหนักต่อ 
ภาพรวมการลงทุนในตลาดหุ้นไทยมากนักในช่วงนี้ เนื่องจากยังมีนักลงทุนกลุ่มอื่นที่สนใจ 
เข้ามาลงทุนต่อเนื่อง ทั้งในส่วนของนักลงทุนสถาบัน และกลุ่มพอร์ตโบรกเกอร์ 

ดัชนีตลาดหุ้นสำคัญ 
*ดัชนีตลาดหลักทรัพย์เมื่อวันอังคาร ปิดบวก 9.68 จุด หรือ 0.83% มาที่ 
1,173.09 ด้วยมูลค่าการซื้อขายที่ 19,429.62 ล้านบาท 
*ดัชนีอุตสาหกรรมดาวโจนส์เมื่อวันอังคาร ปิดบวก 95.51 จุด หรือ 0.75% มาที่ 
12,837.33 และดัชนีแนสแดค ปิดบวก 34.43 จุด หรือ 1.19% มาที่ 2,929.76 
*ตลาดหุ้นในภูมิภาคเช้านี้ ส่วนใหญ่บวก โดยตลาดหุ้นสิงคโปร์ บวก 0.53%,ญี่ปุ่น 
บวก 0.83%, เกาหลีใต้ บวก 0.33%, ไต้หวัน บวก 0.25% และตลาดหุ้นฮ่องกง 
บวก 0.51% 

จับตาหุ้น 
*LOXLEY หลังครม.ตั้ง"อรรถกฤษณ์ ธารีฉัตร"เป็น ผอ.สำนักงานสลากกินแบ่งฯคนใหม่ 
*MBKET คาดดัชนีหุ้นไทย H2/55 มีโอกาสแตะ 1,320 จุด, คงเป้ามาร์เก็ตแชร์ 
*AOT หลังครม.เห็นชอบให้สนามบินดอนเมือง เปิดบริการเชิงพาณิชย์,คาดเริ่ม 1 ก.ค. 
*ILINK เผยบ.ย่อย ได้ใบอนุญาตประกอบกิจการโทรคมนาคม,หนุนธุรกิจ 
*RS เล็งเพิ่มเป้ารายได้ปีนี้ หลังจะขึ้นค่าโฆษณาทีวีดาวเทียมในส.ค. 
*กลุ่มมือถือ หนังสือพิมพ์เผยแหล่งข่าวคณะอนุกรรมการ 3G ระบุเลือกราคาเริ่มต้น 
ประมูลใบอนุญาต 3G ที่ 4,314 ลบ. เสนอบอร์ดกทค.วันนี้

No comments:

Post a Comment