ภาวะตลาดหุ้นประจำวันที่ 8 ก.พ.
ดัชนี-ตลาด ปิดที่ระดับ เปลี่ยนแปลง
ดาวโจนส์-ตลาดหุ้นนิวยอร์ค 12,883.95 + 5.75
FTSE-ตลาดหุ้นลอนดอน 5,875.93 - 14.33
DAX-ตลาดหุ้นเยอรมนี 6,748.76 - 5.44
CAC-40-ตลาดหุ้นฝรั่งเศส 3,410.00 - 1.54
คอมโพสิต-ตลาดหุ้นมะนิลา 4,805.80 + 49.82
เวทเต็ด-ตลาดหุ้นไต้หวัน 7,869.91 + 162.47
S&P/ASX-ตลาดหุ้นออสเตรเลีย 4,290.70 + 16.50
นิกเกอิ-ตลาดหุ้นโตเกียว 9,015.59 + 98.07
คอมโพสิต-ตลาดหุ้นโซล 2,003.73 + 22.14
ฮั่งเส็ง-ตลาดหุ้นฮ่องกง 21,018.46 + 319.27
คอมโพสิต-ตลาดหุ้นมาเลเซีย 1,553.18 + 14.41
FTSE STI-ตลาดหุ้นสิงคโปร์ 3,988.69 + 33.24
คอมโพสิต-ตลาดหุ้นจาการ์ตา 2,982.20 + 24.42
SET-ตลาดหุ้นไทย 1,116.08 + 14.96
SET-50-ตลาดหุ้นไทย 783.39 + 12.44
SET-100-ตลาดหุ้นไทย 1,701.02 + 25.81
ราคาพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐปิดขยับลงเล็กน้อย -- ราคาพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ
ขยับลงเล็กน้อยในวันพุธ หลังจากมีอุปสงค์เข้ามาอย่างแข็งแกร่งในการเปิดขายพันธบัตร
รัฐบาลประเภท 10 ปีในวงเงิน 2.4 หมื่นล้านดอลลาร์ ทั้งนี้ ราคาพันธบัตรอายุ 10 ปี
ปิดขยับลง 01/32 สู่ 100-06/32 โดยมีผลตอบแทน 1.977 % และราคาพันธบัตรอายุ 30 ปี
ปิดทรงตัวที่ 99-21/32 โดยมีผลตอบแทน 3.142 %
ยูโรอ่อนเทียบดอลล์ขณะเจรจาหนี้กรีซยังยืดเยื้อ -- ยูโรปรับตัวลงเล็กน้อย
เมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐหลังแตะระดับสูงสุดในรอบสองเดือนในวันพุธ ขณะที่
นักลงทุนรอสัญญาณบ่งชี้ที่ชัดเจนว่ากรีซจะบรรลุข้อตกลงความช่วยเหลือรอบสอง ทั้งนี้
ดอลลาร์อยู่ที่ 76.970 เยน เทียบกับระดับปิดวันอังคารที่ 76.780 เยน ส่วนยูโรอยู่
ที่ 1.3261 ดอลลาร์และ 102.09 เยน เทียบกับระดับปิดวันอังคารที่ 1.3264 ดอลลาร์
และ 101.85 เยน
น้ำมันดิบปรับขึ้น 30 เซนต์,ได้แรงหนุนจากเบนซิน -- ราคาน้ำมันดิบในตลาด
ล่วงหน้า NYMEX ปรับขึ้นเป็นวันที่สองในวันพุธ โดยได้รับแรงหนุนจากการพุ่งขึ้น
ของราคาน้ำมันเบนซิน ซึ่งปรับขึ้นตามราคาน้ำมันดิบเบรนท์ของอังกฤษ ในขณะที่
นักลงทุนคาดหวังว่ากรีซจะบรรลุข้อตกลงเรื่องหนี้สิน และยังคงกังวลเรื่องอิหร่าน
โดยราคาน้ำมันดิบสหรัฐไม่ได้รับแรงกดดันจากตัวเลขสต็อกน้ำมันที่เพิ่มขึ้น ทั้งนี้
ราคาน้ำมันดิบส่งมอบเดือนมี.ค.ปรับขึ้น 30 เซนต์ หรือ 0.3 % มาปิดตลาดที่ 98.71
ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
ทองร่วงลงตามปัจจัยทางเทคนิค -- ราคาทองสปอตที่ตลาดสหรัฐร่วงลง 0.7 %
สู่ 1,732.49 ดอลลาร์/ออนซ์ในวันพุธ โดยได้รับแรงกดดันจากความกังวลเรื่องเศรษฐกิจ
ยุโรป นอกจากนี้ แนวต้านทางเทคนิคยังกระตุ้นให้นักลงทุนขายทำกำไรทองออกมา
หลังจากราคาทองพุ่งขึ้นในวันอังคาร ทั้งนี้ ราคาทองส่งมอบเดือนเม.ย.ที่ตลาด
COMEX ปิดร่วงลง 17.10 ดอลลาร์ สู่ 1,731.30 ดอลลาร์/ออนซ์ และราคาโลหะเงิน
ส่งมอบเดือนมี.ค.ปิดปรับลง 49.00 เซนต์ สู่ 33.704 ดอลลาร์/ออนซ์ ส่วนที่ตลาด
NYMEX ราคาพลาตินั่มส่งมอบเดือนเม.ย.ปิดบวก 13.30 ดอลลาร์ สู่ 1,668.10 ดอลลาร์
/ออนซ์ และราคาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนมี.ค.ปิดปรับขึ้น 6.75 ดอลลาร์ สู่ 715.90
ดอลลาร์/ออนซ์
SET:คาดหุ้นไทยวันนี้ผันผวน เงินทุนต่างชาติหนุน, จับตาแก้ไขปัญหาหนี้กรีซ
*นักวิเคราะห์คาดหุ้นไทยวันนี้ จะผันผวน หลังจากวานนี้ดัชนีปรับตัวขึ้นมาแรง
ดังนั้นจึงอาจจะมีแรงขายทำกำไรในระหว่างวันได้ อย่างไรก็ตาม ตลาดหุ้น
ยังได้รับปัจจัยบวกจากแรงซื้อของนักลงทุนต่างชาติที่ช่วยหนุนตลาด ขณะที่
การแก้ไขปัญหาหนี้ของกรีซ ก็ยังเป็นปัจจัยที่ต้องติดตาม
*ตลาดหุ้นสหรัฐปิดทรงตัวในการซื้อขายที่เบาบางในวันพุธ โดยดัชนีดาวโจนส์ ปิดบวก
0.04% ขณะที่กรีซ ยังคงไม่ได้ตัดสินใจยอมรับการปฏิรูปที่เข้มงวด เพื่อแลกกับ
การช่วยเหลือเพื่อหลีกเลี่ยงการผิดนัดชำระหนี้
*ราคาน้ำมันดิบในตลาดล่วงหน้า NYMEX ส่งมอบเดือนมี.ค.ปิดวานนี้ปรับขึ้น 30
เซนต์ หรือ 0.3% ปิดที่ 98.71 ดอลลาร์/บาร์เรล โดยได้แรงหนุนราคาน้ำมันเบนซิน
ที่ปรับขึ้นตามราคาน้ำมันดิบเบรนท์ของอังกฤษ ขณะที่นักลงทุนคาดหวังว่ากรีซ
จะบรรลุข้อตกลงเรื่องหนี้สิน และยังคงกังวลเรื่องอิหร่าน โดยราคาน้ำมันดิบ
สหรัฐไม่ได้รับแรงกดดัน จากตัวเลขสต็อกน้ำมันที่เพิ่มขึ้น
*วันพุธต่างชาติซื้อสุทธิ 5.45 พันลบ.จากวันอังคารซื้อสุทธิ 2.30 พันลบ.
*เช้านี้บาท/ดอลลาร์อยู่ที่ 30.74/76 จากเมื่อวันพุธอยู่ที่ 30.73/76
*นักวิเคราะห์มองแนวรับที่ 1,109 ส่วนแนวต้านที่ 1,122
"ผมว่าตลาดวันนี้น่าจะผันผวน หลังจากเมื่อวานนี้ปรับตัวขึ้นมาแรง ซึ่งมีโอกาส
ที่จะเป็นขาขึ้นได้ แต่ในระหว่างวันจะถูกแรงขายทำกำไรออกมา"นายเทิดศักดิ์ ทวีธีระธรรม
ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายวิเคราะห์ บล.เอเซีย พลัส กล่าว
นายเทิดศักดิ์ กล่าวว่า ตลาดหุ้นยังได้รับผลดีจากเงินทุนต่างชาติ ที่เข้ามา
ซื้อหุ้นอย่างต่อเนื่อง รวมถึงการเข้าไปลงทุนในสินค้าโภคภัณฑ์ด้วย จึงมองว่าหุ้นกลุ่ม
ที่น่าสนใจ ได้แก่ กลุ่มพลังงาน, ปิโตรเคมี และนิคมอุตสาหกรรม
อย่างไรก็ตาม ยังต้องติดตามการแก้ไขปัญหาหนี้ของกรีซต่อไป แม้ว่าน้ำหนักที่จะ
มีผลต่อตลาดหุ้นจะน้อยลงก็ตาม
เขา กล่าวว่า ตลาดหุ้นวันนี้จะมีแนวต้านที่ 1,122 ส่วนแนวรับอยู่ที่ 1,109
ดัชนีตลาดหุ้นสำคัญ
*ดัชนีตลาดหลักทรัพย์เมื่อวันพุธ ปิดบวก 14.96 จุด หรือ 1.36% มาที่ 1,116.08
ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 45,368.93 ล้านบาท
*ดัชนีอุตสาหกรรมดาวโจนส์เมื่อวันพุธ ปิดบวก 5.75 จุด หรือ 0.04% มาที่
12,883.95 และดัชนีแนสแดค ปิดบวก 11.78 จุด หรือ 0.41% มาที่ 2,915.86
*ตลาดหุ้นในภูมิภาคเช้านี้ ส่วนใหญ่ปรับตัวลงกรอบแคบ โดยตลาดหุ้นสิงคโปร์ ลบ
0.77%, ญี่ปุ่น ลบ 0.68% ,เกาหลีใต้ ลบ 1.03%, ไต้หวัน ลบ 0.19% และ
ฮ่องกง ลบ 0.96%
จับตาหุ้น
*CPN คาดกำไรสุทธิปี 55 โตมากจากปีก่อน, เล็งเปิดศูนย์การค้าตปท.
*MCOT คาดรายได้ปี 55 ดีกว่าปีก่อน จากการปรับผังรายการ-ขึ้นค่าโฆษณา
*PTTGC หนังสือพิมพ์เผย "พีทีทีโกลบอล"ตั้งเป้า 3 ปี ฮุบหุ้น Perstorp 100%
*RPC หนังสือพิมพ์เผย ระยองเพียวฯ เร่งสรุปลงทุนโซลาร์ แทนโรงกลั่น
No comments:
Post a Comment