ภาวะตลาดหุ้นประจำวันที่ 7 ก.พ.
ดัชนี-ตลาด ปิดที่ระดับ เปลี่ยนแปลง
ดาวโจนส์-ตลาดหุ้นนิวยอร์ค 12,878.20 + 33.07
FTSE-ตลาดหุ้นลอนดอน 5,890.26 - 1.94
DAX-ตลาดหุ้นเยอรมนี 6,754.20 - 10.63
CAC-40-ตลาดหุ้นฝรั่งเศส 3,411.54 + 6.27
คอมโพสิต-ตลาดหุ้นมะนิลา 4,755.98 - 60.35
เวทเต็ด-ตลาดหุ้นไต้หวัน 7,707.44 + 19.46
S&P/ASX-ตลาดหุ้นออสเตรเลีย 4,274.20 - 21.80
นิกเกอิ-ตลาดหุ้นโตเกียว 8,917.52 - 11.68
คอมโพสิต-ตลาดหุ้นโซล 1,981.59 + 8.46
ฮั่งเส็ง-ตลาดหุ้นฮ่องกง 20,699.19 - 10.75
คอมโพสิต-ตลาดหุ้นมาเลเซีย ตลาดปิดทำการ
FTSE STI-ตลาดหุ้นสิงคโปร์ 2,957.78 + 17.68
คอมโพสิต-ตลาดหุ้นจาการ์ตา 3,955.45 - 19.33
SET-ตลาดหุ้นไทย 1,101.12 + 7.11
SET-50-ตลาดหุ้นไทย 770.95 + 5.13
SET-100-ตลาดหุ้นไทย 1,675.21 + 10.66
ราคาพันธบัตรปิดร่วง -- ราคาพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐปิดร่วงลงในวันอังคาร ขณะที่
นักลงทุนเตรียมรอการประมูลพันธบัตรมูลค่า 7.2 หมื่นล้านดอลลาร์ในสัปดาห์นี้ และแรงซื้อพันธ
บัตรแผ่วลงหลังจากมีรายงานว่า กรีซใกล้จะบรรลุข้อตกลงเกี่ยวกับเงื่อนไขของมาตรการช่วย
เหลือทางการเงิน ทั้งนี้ ราคาพันธบัตรอายุ 10 ปีลดลง 24/32 มาที่ 100-05/32 โดยมีผล
ตอบแทน 1.984% และราคาพันธบัตรอายุ 30 ปีร่วงลง 1-11/32 มาที่ 99-09/32 โดยมี
ผลตอบแทน 3.162%
ยูโรพุ่งเทียบดอลล์รับความหวังกรีซบรรลุข้อตกลง -- ยูโรทะยานขึ้นเมื่อเทียบกับ
สกุลเงินต่างๆในวันอังคาร โดยแตะระดับสูงสุดในรอบ 8 สัปดาห์เมื่อเทียบกับดอลลาร์จาก
ความเชื่อมั่นที่ว่า กรีซจะยอมรับข้อตกลงความช่วยเหลือเร็วๆนี้เพื่อหลีกเลี่ยงการผิดนัดชำระ
หนี้ ทั้งนี้ ดอลลาร์อยู่ที่ 76.780 เยน เทียบกับระดับปิดวันจันทร์ที่ 76.560 เยน ส่วนยูโร
อยู่ที่ 1.3262 ดอลลาร์และ 101.83 เยน เทียบกับระดับปิดวันจันทร์ที่ 1.3131 ดอลลาร์
และ 100.55 เยน
น้ำมันดิบสหรัฐปิดพุ่งขึ้น 1.5 ดอลล์ -- ราคาน้ำมันดิบในตลาดล่วงหน้า NYMEX
ดีดขึ้นกว่า 1.5% ในวันอังคาร ท่ามกลางความผันผวนในการการทำสเปรดน้ำมันข้ามมหา
สมุทรแอตแลนติก และได้รับแรงหนุนจากข่าวที่ว่ามีการปิดโรงงานแปรรูปทรายน้ำมันแห่งหนึ่ง
ในรัฐแอลเบอร์ทาของแคนาดาเป็นเวลา 2-3 สัปดาห์ ทั้งนี้ ราคาน้ำมันดิบส่งมอบเดือนมี.ค.
ทะยานขึ้น 1.50 ดอลลาร์ หรือ 1.55% มาปิดตลาดที่ 98.41 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
ทองสปอตพุ่งขึ้น 1.6%ขณะตลาดจับตาแผนช่วยกรีซ -- ราคาทองสปอตที่ตลาดสหรัฐ
ทะยานขึ้น 1.6% สู่ 1,746.64 ดอลลาร์/ออนซ์ในวันอังคาร ซึ่งถือเป็นการพุ่งขึ้นครั้งใหญ่ที่สุด
ในรอบ 2 สัปดาห์ ในขณะที่ดอลลาร์ดิ่งลงอย่างรุนแรงเมื่อเทียบกับยูโร เนื่องจากนักลงทุนคาด
การณ์ว่ากำลังจะมีการบรรลุข้อตกลงเรื่องมาตรการช่วยเหลือกรีซ ทั้งนี้ ราคาทองส่งมอบเดือน
เม.ย.ที่ตลาด COMEX ปิดพุ่งขึ้น 23.50 ดอลลาร์ ที่ 1,748.40 ดอลลาร์/ออนซ์ และราคา
โลหะเงินส่งมอบเดือนมี.ค.ปิดพุ่งขึ้น 44.40 เซนต์ ที่ 34.194 ดอลลาร์/ออนซ์ ส่วนที่ตลาด
NYMEX ราคาพลาตินั่มส่งมอบเดือนเม.ย.ปิดพุ่งขึ้น 25.00 ดอลลาร์ ที่ 1,654.80 ดอลลาร์
/ออนซ์ และราคาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนมี.ค.ปิดบวก 3.20 ดอลลาร์ ที่ 709.15 ดอลลาร์
/ออนซ์
SET:คาดหุ้นไทยวันนี้ปรับขึ้น โบรกฯ มองเงินทุนต่างชาติยังหนุนตลาด
*นักวิเคราะห์คาดหุ้นไทยวันนี้ ดัชนีปรับขึ้นต่อเนื่องจากวานนี้ โดยตลาดยังได้
รับปัจจัยบวกจากเงินทุนต่างชาติที่เข้ามาลงทุนอย่างต่อเนื่อง อย่างไรก็ตาม
การแก้ปัญหาหนี้ของกรีซ ยังไม่มีความแน่นอน จึงเป็นปัจจัยที่ต้องติดตาม
*ตลาดหุ้นสหรัฐปิดปรับขึ้นเล็กน้อยในวันอังคาร โดยดัชนีดาวโจนส์ บวก 0.26%
แต่ผลการหารือเกี่ยวกับมาตรการช่วยเหลือกรีซยังไม่แน่นอน นักลงทุนจึงไม่มี
แนวโน้มที่จะเข้าลงทุนล็อตใหญ่ในระยะนี้
*ราคาน้ำมันดิบในตลาดล่วงหน้า NYMEX ส่งมอบเดือนมี.ค.ปิดวานนี้ทะยานขึ้น 1.50
ดอลลาร์ หรือ 1.55% ปิดที่ 98.41 ดอลลาร์/บาร์เรล ท่ามกลางความผันผวนในการทำ
สเปรดน้ำมันข้ามมหาสมุทรแอตแลนติก และได้รับแรงหนุนจากข่าวที่ว่ามีการปิดโรงงาน
แปรรูปทรายน้ำมันแห่งหนึ่งในรัฐแอลเบอร์ทา ของแคนาดาเป็นเวลา 2-3 สัปดาห์
*วันอังคารต่างชาติซื้อสุทธิ 2.30 พันลบ.จากวันจันทร์ซื้อสุทธิ 2.21 พันลบ.
*เช้านี้บาท/ดอลลาร์อยู่ที่ 30.83/87 จากเมื่อวันอังคารอยู่ที่ 30.91/95
*นักวิเคราะห์มองแนวรับที่ 1,100 และ 1,098 ส่วนแนวต้านที่ 1,122
"ภาพตลาดวันนี้น่าจะขึ้นต่อได้อีก เพราะ fund flow จากต่างประเทศที่ไหลเข้ามา
จึงเป็นปัจจัยบวกต่อตลาด แต่ในระหว่างวันอาจจะมีแรงขายทำกำไรออกมาบ้าง"นายจักรกริช
เจริญเมธาชัย กรรมการผู้จัดการ บล.โกลเบล็ก กล่าว
นายจักรกริช กล่าวว่า การแก้ปัญหาหนี้ของกรีซ ยังเป็นปัจจัยที่กดดันตลาด และ
นักลงทุนยังต้องติดตาม
ผู้นำพรรคร่วมรัฐบาลของกรีซ ได้เลื่อนการตัดสินใจอีกครั้งเมื่อวานนี้ ในการ
ยอมรับการปฏิรูป ซึ่งเป็นเงื่อนไขในมาตรการให้ความช่วยเหลือวงเงิน 1.30 แสนล้านยูโร
เพื่อหลีกเลี่ยงการผิดนัดชำระหนี้ของกรีซ โดยจะมีการประชุมกันอีกครั้งในวันนี้
นายจักรกริช กล่าวอีกว่า การที่ดัชนีขึ้นมาอยู่ที่ระดับ 1,100 จุด มองว่ารอบนี้
ดัชนีตลาดหุ้นขึ้นมาเร็วและแรง จึงแนะนำให้ลดการถือหุ้นเหลือ 60% ของพอร์ตการลงทุน
จากเดิมในช่วงที่ดัชนีอยู่ในระดับ 1,050 แนะนำให้ถือหุ้น 100% สาเหตุที่ให้ลดการถือหุ้น
ลง เพราะมองว่าดัชนีเข้าใกล้ระดับเป้าหมายของปีนี้ ที่ประเมินว่าจะอยู่ที่ 1,122
ดัชนีตลาดหุ้นสำคัญ
*ดัชนีตลาดหลักทรัพย์เมื่อวันอังคาร ปิดบวก 7.11 จุด หรือ 0.65% มาที่ 1,101.12
ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 30,401.07 ล้านบาท
*ดัชนีอุตสาหกรรมดาวโจนส์เมื่อวันอังคาร ปิดบวก 33.07 จุด หรือ 0.26% มาที่
12,878.20 และดัชนีแนสแดค ปิดบวก 2.09 จุด หรือ 0.07% มาที่ 2,904.08
*ตลาดหุ้นในภูมิภาคเช้านี้ ส่วนใหญ่ปรับตัวขึ้นในกรอบแคบ โดยตลาดหุ้นสิงคโปร์
บวก 0.13%, ญี่ปุ่น บวก 0.6% ,เกาหลีใต้ บวก 0.79%, ไต้หวัน บวก 1.24%
และฮ่องกง บวก 0.4%
จับตาหุ้น
*RPC เผยหยุดการผลิตตั้งแต่ 7 ก.พ.55 หลังปตท.หยุดส่งวัตถุดิบให้บริษัท
*MBKET ตั้งเป้ารายได้ช่วง 5 ปีจากนี้ โตเฉลี่ยปีละ 20%, มีโอกาสควบรวมกิจการ
*BCP ตั้งงบลงทุนปีนี้ 7 พันลบ.ใช้ปรับปรุงโรงกลั่น-โรงไฟฟ้าแสงอาทิตย์
*MK เผยรายได้ปี 54 ที่ 1.7 พันลบ. ต่ำกว่าเป้า,ผลกระทบจากน้ำท่วม
*TOP คาดกำไรสุทธิปี 55 ลดลงจากปีก่อน, ไม่มีกำไรจากสต็อกน้ำมัน
No comments:
Post a Comment