สรุปข่าวเศรษฐกิจรอบโลก 26 มค 55

ภาวะตลาดหุ้นประจำวันที่ 25 ม.ค. 

ดัชนี-ตลาด ปิดที่ระดับ เปลี่ยนแปลง 

ดาวโจนส์-ตลาดหุ้นนิวยอร์ค 12,758.85 + 83.10 
FTSE-ตลาดหุ้นลอนดอน 5,723.00 - 28.90 
DAX-ตลาดหุ้นเยอรมนี 6,421.85 + 2.63 
CAC-40-ตลาดหุ้นฝรั่งเศส 3,312.48 - 10.17 
คอมโพสิต-ตลาดหุ้นมะนิลา 4,670.49 - 43.86 
เวทเต็ด-ตลาดหุ้นไต้หวัน ตลาดปิดทำการ 
S&P/ASX-ตลาดหุ้นออสเตรเลีย 4,271.30 + 47.10 
นิกเกอิ-ตลาดหุ้นโตเกียว 8,883.69 + 98.36 
คอมโพสิต-ตลาดหุ้นโซล 1,952.23 + 2.34 
ฮั่งเส็ง-ตลาดหุ้นฮ่องกง ตลาดปิดทำการ 
คอมโพสิต-ตลาดหุ้นมาเลเซีย 1,519.76 - 2.90 
FTSE STI-ตลาดหุ้นสิงคโปร์ 2,891.64 + 42.26 
คอมโพสิต-ตลาดหุ้นจาการ์ตา 3,963.60 - 30.97 
SET-ตลาดหุ้นไทย 1,056.01 - 7.07 
SET-50-ตลาดหุ้นไทย 736.69 - 6.26 
SET-100-ตลาดหุ้นไทย 1,603.30 - 12.76 

เฟดคงดบ.0-0.25% ตรึงถึงปี 2014 ประเดิมเผยคาดการณ์ดบ.,เป้าเงินเฟ้อ -- 
ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ประกาศคงเป้าหมายอัตราดอกเบี้ยระยะสั้น (fed funds rate) 
อยู่ในกรอบ 0-0.25% ในการประชุมวานนี้ ซึ่งเป็นระดับ ที่ได้กำหนดไว้ในการประชุมเดือนธ.ค. 
2008 และบ่งชี้ว่าเฟดจะยังคงรักษาอัตราดอกเบี้ยให้อยู่ในระดับต่ำเป็นพิเศษต่อไปอย่างน้อยจน 
ถึงภายในปี 2014 

ราคาพันธบัตรปิดบวกหลังเฟดประกาศคงดบ.ต่ำ -- ราคาพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐปิด 
พุ่งขึ้นในวันพุธ หลังจากธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ประกาศว่าจะคงอัตราดอกเบี้ยระยะสั้น 
ใกล้ 0% ต่อไปจนถึงปลายปี 2014 ซึ่งเป็นระยะเวลาที่นานกว่าที่ตลาดเคยคาดไว้ ทั้งนี้ ราคา 
พันธบัตรอายุ 10 ปีพุ่งขึ้น 20/32 มาที่ 100-02/32 โดยมีผลตอบแทน 1.995% และราคาพันธ 
บัตรอายุ 30 ปีบวก 08/32 มาที่ 99-25/32 โดยมีผลตอบแทน 3.136% 

ดอลล์ร่วงหลังเฟดยันตรึงดอกเบี้ยต่ำอีกนาน -- ดอลลาร์ร่วงลงสู่ระดับต่ำสุดเมื่อเทียบ 
กับยูโรในรอบ 5 สัปดาห์ในวันพุธ หลังธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ยืนยันที่จะตรึงอัตราดอกเบี้ย 
ไว้ที่ระดับต่ำนานกว่าคาด และระบุถึงความพร้อมที่จะกระตุ้นเศรษฐกิจต่อไป ทั้งนี้ ดอลลาร์อยู่ที่ 
77.710 เยน เทียบกับระดับปิดตลาดวันอังคารที่ 77.700 เยน ส่วนยูโรอยู่ที่ 1.3113 ดอลลาร์ 
และ 101.90 เยน เทียบกับ ระดับปิดตลาดวันอังคารที่ 1.3021 ดอลลาร์และ 101.20 เยน 

ราคาน้ำมันดิบปิดบวกขานรับเฟดตรึงดบ. -- ราคาน้ำมันดิบในตลาดล่วงหน้า NYMEX 
ปรับตัวขึ้นในวันพุธหลังธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ระบุว่าจะตรึงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับต่ำไปอย่าง 
น้อยจนถึงปลายปี 2014 และตลาดยังได้แรงหนุนจากสัญญาน้ำมันเบนซินที่แข็งแกร่ง ทั้งนี้ ราคาน้ำ 
มันดิบส่งมอบเดือนมี.ค.ปิดบวก 45 เซนต์หรือ 0.45% สู่ระดับ 99.40 ดอลลาร์/บาร์เรล 

ทองปิดพุ่ง 2.5% เหนือระดับ 1,700 ดอลล์ -- ราคาทองปิดตลาดพุ่งขึ้น 2.5% ใน 
วันพุธเหนือระดับ 1,700 ดอลลาร์/ออนซ์ ซึ่งเป็นการพุ่งขึ้นใน 1 วันมากที่สุดในรอบ 4 เดือน 
หลังธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ระบุว่าอัตราดอกเบี้ยมีแนวโน้มอยู่ใกล้ระดับ 0% จนถึงปลายปี 
2014 ทั้งนี้ ราคาทองส่งมอบเดือนก.พ.ที่ตลาด COMEX ปิดพุ่งขึ้น 35.60 ดอลลาร์ ที่ 1,700.10 
ดอลลาร์/ออนซ์ และราคาโลหะเงินส่งมอบเดือนมี.ค.ปิดพุ่งขึ้น 1.146 ดอลลาร์ ที่ 33.121 ดอล 
ลาร์/ออนซ์ ส่วนที่ตลาด NYMEX ราคาพลาตินั่มส่งมอบเดือนเม.ย.ปิดพุ่งขึ้น 27.20 ดอลลาร์ ที่ 
1,579.60 ดอลลาร์/ออนซ์ และราคาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนมี.ค.ปิดพุ่งขึ้น 12.80 ดอลลาร์ ที่ 
693.35 ดอลลาร์/ออนซ์


SET:คาดหุ้นไทยวันนี้ปรับขึ้น ตามต่างประเทศ, fund flow เริ่มไหลเข้าเอเชีย 


*นักวิเคราะห์หลักทรัพย์ คาดหุ้นไทยวันนี้ปรับขึ้น ตามทิศทางตลาดหุ้นต่างประเทศ 
โดยเฉพาะตลาดหุ้นสหรัฐ ที่ปิดปรับขึ้น ประกอบกับมองว่า เริ่มมีเม็ดเงินจาก 
ต่างชาติไหลเข้าลงทุนในตลาดหุ้นเอเชีย อย่างไรก็ตาม ยังมีปัจจัยลบจากเรื่อง 
การแก้ปัญหาหนี้ของกรีซ ที่คอยกดดันตลาดอยู่ 
*ตลาดหุ้นสหรัฐปิดปรับขึ้นในวันพุธ หลังบริษัทแอปเปิล อิงค์ เปิดเผยผลกำไรสูง 
เกินคาด และธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ส่งสัญญาที่จะตรึงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ 
ระดับต่ำเป็นเวลาอย่างน้อยอีก 2 ปี โดยดัชนีดาวโจนส์ ปิดบวก 0.64% 
*เฟด ประกาศคงเป้าหมายอัตราดอกเบี้ยระยะสั้น (fed funds rate) อยู่ใน 
กรอบ 0-0.25% ในการประชุมวานนี้ ซึ่งเป็นระดับที่กำหนดไว้ในการประชุมเดือน 
ธ.ค.51 และบ่งชี้ว่าเฟดจะยังคงรักษาอัตราดอกเบี้ย ให้อยู่ในระดับต่ำเป็นพิเศษ 
ต่อไป อย่างน้อยจนถึงภายในปี 2014 
*ราคาน้ำมันดิบในตลาดล่วงหน้า NYMEX ส่งมอบเดือนมี.ค.ปิดวานนี้ บวก 45 เซนต์ 
หรือ 0.45% ปิดที่ 99.40 ดอลลาร์/บาร์เรล หลังเฟด ระบุว่าจะตรึงอัตราดอกเบี้ย 
ที่ระดับต่ำไปอย่างน้อยจนถึงปลาย ปี 2014 และตลาดยังได้แรงหนุนจากสัญญาน้ำมัน 
เบนซินที่แข็งแกร่ง 
*วันพุธต่างชาติซื้อสุทธิ 166.35 ลบ.จากวันอังคารซื้อสุทธิ 556.90 ลบ. 
*เช้านี้บาท/ดอลลาร์อยู่ที่ 31.37/44 เมื่อวันพุธ อยู่ที่ 31.55/59 
*นักวิเคราะห์มองแนวรับที่ 1,050 ส่วนแนวต้านที่ 1,070 จุด 

"fund flow เริ่มไหลเข้าเอเชียเหนือ เชื่อว่าวันนี้น่าจะมีแรงซื้อหุ้นขนาดใหญ่" 
นายจักรกริช เจริญเมธาชัย กรรมการผู้จัดการ บล.โกลเบล็ก กล่าว 
เขามองว่า ตลาดหุ้นไทยวันนี้ จะปรับขึ้นตามทิศทางตลาดหุ้นต่างประเทศ หลัง 
จากที่ตลาดหุ้นสหรัฐปิดทำการเมื่อคืนนี้ ปรับตัวขึ้น และตลาดหุ้นในเอเชียเช้านี้ส่วนใหญ่ 
ก็ปรับขึ้นด้วย 
อย่างไรก็ตาม การรีบาวด์ของตลาดหุ้นไทยวันนี้ อาจจะบวกได้ไม่มาก เนื่องจาก 
ตลาดหุ้นทั่วโลก ยังคงถูกกดดันด้วยปัจจัยเรื่องการแก้ปัญหาหนี้ของกรีซอยู่ 

ดัชนีตลาดหุ้นสำคัญ 
*ดัชนีตลาดหลักทรัพย์เมื่อวันพุธ ปิดลบ 7.07 จุด หรือ 0.67% มาที่ 1,056.01 
ด้วยมูลค่าการซื้อขายที่ 19,749.77 ล้านบาท 
*ดัชนีอุตสาหกรรมดาวโจนส์ เมื่อวันพุธ ปิดบวก 81.21 จุด หรือ 0.64% มาที่ 
12,756.96 และดัชนีแนสแดค ปิดบวก 31.67 จุด หรือ 1.14% มาที่ 2,818.31 
*ตลาดหุ้นในภูมิภาคเช้านี้ ส่วนใหญ่ปรับขึ้น โดยตลาดหุ้นเกาหลีใต้ บวก 0.19%, 
สิงคโปร์ ลบ 0.07%, ฮ่องกง บวก 1.09% ขณะที่ญี่ปุ่น ลบ 0.42% ส่วนตลาดหุ้น 
ไต้หวัน ยังปิดทำการ เนื่องในเทศกาลตรุษจีน 

จับตาหุ้น 
*BAY คาดการซื้อธุรกิจรายย่อยจาก HSBC ในไทย จะเสร็จใน Q1/55 
*TMB ตั้งเป้าสินเชื่อเอสเอ็มอีปีนี้ โต 35-40%, เน้นเครือข่ายการค้า 
*IVL มีแผนสร้างรง.ผลิต PTA-PET-PSF ในอินเดีย มูลค่าราว $700 ล้าน 
*SCC ตั้งงบลงทุนปีนี้ราว 3 หมื่นลบ., สนใจซื้อโรงปูนในเวียดนาม สรุปใน H2 
*PRIN คาดกำไรสุทธิปี 55 โตกว่าปีก่อน, เล็งเปิดอย่างน้อย 6 โครงการใหม่ 
*NCH คาดกำไรสุทธิปี 55 อาจต่ำกว่าปีก่อน, ตั้งเป้ารายได้โต 20% 
*CWT ตั้งเป้ามีรายได้ปีแรก 100 ลบ. จากโครงการผลิตเบาะผ้ากับญี่ปุ่น 
*HEMRAJ ตั้งเป้ารายได้ปีนี้โตราว 40%, ขายที่ดิน 1.5 พันไร่