Thursday, January 12, 2012

สรุปข่าวเศรษฐกิจรอบโลก 13 มค 55

ภาวะตลาดหุ้นประจำวันที่ 12 ม.ค. 

ดัชนี-ตลาด ปิดที่ระดับ เปลี่ยนแปลง 
ดาวโจนส์-ตลาดหุ้นนิวยอร์ค 12,471.02 + 21.57 
FTSE-ตลาดหุ้นลอนดอน 5,662.42 - 8.40 
DAX-ตลาดหุ้นเยอรมนี 6,179.21 + 26.87 
CAC-40-ตลาดหุ้นฝรั่งเศส 3,199.98 - 4.85 
คอมโพสิต-ตลาดหุ้นมะนิลา 4,648.11 + 2.25 
เวทเต็ด-ตลาดหุ้นไต้หวัน 7,186.58 - 1.63 
S&P/ASX-ตลาดหุ้นออสเตรเลีย 4,181.00 - 6.50 
นิกเกอิ-ตลาดหุ้นโตเกียว 8,385.59 - 62.29 
คอมโพสิต-ตลาดหุ้นโซล 1,864.57 + 19.02 
ฮั่งเส็ง-ตลาดหุ้นฮ่องกง 19,095.38 - 56.56 
คอมโพสิต-ตลาดหุ้นมาเลเซีย 1,525.56 + 3.27 
FTSE STI-ตลาดหุ้นสิงคโปร์ 2,743.66 - 3.47 
คอมโพสิต-ตลาดหุ้นจาการ์ตา 3,909.50 - 0.14 
SET-ตลาดหุ้นไทย 1,052.23 + 0.60 
SET-50-ตลาดหุ้นไทย 735.88 - 0.26 
SET-100-ตลาดหุ้นไทย 1,601.30 + 0.34 

ราคาพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐปิดขยับลง -- ราคาพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐขยับลง 
เล็กน้อยในวันพฤหัสบดี หลังจากนักลงทุนแทบไม่แสดงความสนใจที่จะเข้าซื้อพันธบัตร 
ประเภท 30 ปีในการประมูลครั้งสุดท้ายของกระทรวงการคลังสหรัฐในสัปดาห์นี้ ทั้งนี้ 
ราคาพันธบัตรอายุ 10 ปีปิดขยับลง 05/32 สู่ 100-22/32 โดยมีผลตอบแทน 1.923 % 
และราคาพันธบัตรอายุ 30 ปีปิดปรับลง 04/32 สู่ 103-02/32 โดยมีผลตอบแทน 2.970 % 

ยูโรดีดตัวรับผลประมูลบอนด์สเปน,อิตาลีแข็งแกร่ง -- ยูโรปรับตัวขึ้นสู่ 
ระดับสูงสุดในรอบ 1 สัปดาห์เมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐในวันพฤหัสบดี ขณะที่ 
การประมูลขายพันธบัตรที่แข็งแกร่งของสเปนและอิตาลี รวมถึงเห็นความเห็นในเชิงบวก 
มากขึ้นเกี่ยวกับเศรษฐกิจยูโรโซนจากนายมาริโอ ดรากี ประธานธนาคารกลางยุโรป 
(อีซีบี) ได้คลายความวิตกเกี่ยวกับวิกฤติหนี้ยูโรโซน ทั้งนี้ ดอลลาร์อยู่ที่ 76.780 
เยน เมื่อเทียบกับระดับปิดตลาดวันพุธที่ 76.910 เยน ส่วนยูโรอยู่ที่ 1.2828 ดอลลาร์ 
และ 98.490 เยน เมื่อเทียบกับระดับปิดตลาดวันพุธที่ 1.2703 ดอลลาร์และ 97.670 เยน 

ข่าวมาตรการอียูกดน้ำมันดิบปิดดิ่งลง 1.77 ดอลล์ -- ราคาน้ำมันดิบในตลาด 
ล่วงหน้า NYMEX ร่วงลงในวันพฤหัสบดี หลังจากมีข่าวว่ามาตรการของสหภาพยุโรป 
(อียู) ที่ใช้ในการคว่ำบาตรการส่งออกน้ำมันดิบของอิหร่านจะได้รับการนำมาปฏิบัติ 
ใช้ทีละขั้นตอนในระยะเวลา 6 เดือน ทั้งนี้ ราคาน้ำมันดิบส่งมอบเดือนก.พ.ดิ่งลง 
1.77 ดอลลาร์ หรือ 1.75 % มาปิดตลาดที่ 99.10 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล หลังจากเคลื่อนตัว 
ในช่วง 98.50-102.98 ดอลลาร์ 

ถ้อยแถลงปธ. ECB หนุนราคาทองปรับขึ้น -- ราคาทองสปอตที่ตลาดสหรัฐ 
ปรับขึ้น 0.3 % สู่ 1,645.90 ดอลลาร์/ออนซ์ในช่วงท้ายตลาดวันพฤหัสบดี หลังจาก 
ขึ้นไปแตะจุดสูงสุดรอบ 1 เดือนที่ 1,661.71 ดอลลาร์ในระหว่างวัน โดยราคาทองปรับ 
ขึ้นเป็นวันที่ 3 ติดต่อกัน โดยได้รับแรงหนุนจากถ้อยแถลงของนายมาริโอ ดรากี 
ประธานธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) ที่ว่า เงินกู้ดอกเบี้ยต่ำช่วยสร้างเสถียรภาพให้กับ 
ระบบการธนาคารของยูโรโซน ทั้งนี้ ราคาทองส่งมอบเดือนก.พ.ที่ตลาด COMEX ปิด 
เพิ่มขึ้น 8.10 ดอลลาร์ สู่ 1,647.70 ดอลลาร์/ออนซ์ และราคาโลหะเงินส่งมอบเดือน 
มี.ค.ปิดปรับขึ้น 23.40 เซนต์ สู่ 30.124 ดอลลาร์/ออนซ์ ส่วนที่ตลาด NYMEX ราคา 
พลาตินั่มส่งมอบเดือนเม.ย.ปิดบวก 2.40 ดอลลาร์ สู่ 1,500.10 ดอลลาร์/ออนซ์ และ 
ราคาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนมี.ค.ปิดร่วงลง 4.40 ดอลลาร์ สู่ 641.25 ดอลลาร์/ออนซ์


SET:ปัจจัยจับตาการลงทุนวันนี้ ตลาดหุ้นสหรัฐปิดบวก-ราคาน้ำมันดิบปิดร่วงลง 


ต่างประเทศ

*ตลาดหุ้นสหรัฐยังคงปรับตัวขึ้นในวันพฤหัสบดี โดยดัชนี S&P 500 ปิดที่ระดับ
สูงสุดในรอบ 5 เดือนเป็นวันที่ 3 แต่การปรับตัวเป็นไปอย่างยากลำบาก ขณะที่
มีการเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่ซบเซา และมีการประมูลพันธบัตรยุโรป โดยดัชนี
ดาวโจนส์ ปิดบวก 0.17%
*วานนี้ ตลาดหุ้นเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ปรับตัวแทบไม่เปลี่ยนแปลง โดยความต้องการ
สินทรัพย์เสี่ยงได้ลดน้อยลงทั่วเอเชีย ขณะที่นักลงทุนรอการประมูลพันธบัตรสเปน
ซึ่งมองว่าเป็นตัวชี้วัดความเชื่อมั่น ท่ามกลางความกังวลเกี่ยวกับหนี้ยูโรโซน
โดยตลาดหุ้นฟิลิปปินส์ มาเลเซีย อินโดนีเซีย เวียดนาม และสิงคโปร์ ต่างปิดบวก
*ราคาน้ำมันดิบในตลาดล่วงหน้า NYMEX ส่งมอบเดือนก.พ.ปิดวานนี้ ดิ่งลง 1.77
ดอลลาร์ หรือ 1.75% ปิดที่ 99.10 ดอลลาร์/บาร์เรล หลังมีข่าวว่ามาตรการของ
สหภาพยุโรป (อียู) ที่ใช้ในการคว่ำบาตรการส่งออกน้ำมันดิบ ของอิหร่าน จะได้รับ
การนำมาปฏิบัติใช้ ทีละขั้นตอนในระยะเวลา 6 เดือน
*ดัชนีค่าระวางเรือ(Baltic Dry Index) ปิดวานนี้ ลบ 88 จุด หรือ 7.38% สู่
1105 ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดของปีนี้ ส่วนระดับสูงสุดของปีนี้อยู่ที่ 1624
*อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสเปนและอิตาลี ร่วงลงอย่างรุนแรง วานนี้หลังผล
การประมูลพันธบัตรในทั้งสองประเทศ ที่ได้รับการตอบรับอย่างคึกคัก จากนักลงทุน
ในการเริ่มต้นโครงการระดมทุนในปีนี้
*ทั้งนี้ สเปนขายพันธบัตรได้มากกว่าเป้าหมายถึง 2 เท่าในการประมูล พันธบัตรใหม่
อายุ 3 ปี และพันธบัตรที่มีอยู่เดิม 2 รายการซึ่งจะครบกำหนดไถ่ถอน ในปี 2016
ขณะที่อัตราผลตอบแทนลดลงครึ่งหนึ่งในการประมูลตั๋วเงินคลังของอิตาลี ซึ่งสะท้อน
ถึงความสำเร็จในการประมูลขายตราสารหนี้วานนี้
*กระทรวงแรงงานสหรัฐ เปิดเผยจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงาน ครั้งแรกพุ่งขึ้นสู่
3.99 แสนรายในสัปดาห์สิ้นสุด 7 ม.ค.ซึ่งเป็นจำนวนสูงสุดรอบ 6 สัปดาห์ โดยพุ่ง
ขึ้นจาก 3.75 แสนรายในสัปดาห์ก่อนหน้า ขณะนักเศรษฐศาสตร์คาดไว้ที่ 3.75 แสนราย

เศรษฐกิจทั่วไป

*กบง.เห็นชอบปรับอัตราเงินส่งเข้ากองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง สำหรับน้ำมันเบนซินและ
แก๊สโซฮอล์ ที่ 1 บาท/ลิตร, น้ำมันดีเซล 0.60 บาท/ลิตร ตั้งแต่ 16 ม.ค.55
เพื่อรักษาเสถียรภาพกองทุนน้ำมัน ตามที่กพช. มีมติไว้เมื่อปลายเดือนก.ย.54
*กบง.เห็นชอบขยายการให้ความช่วยเหลือ แก่ผู้ได้รับผลกระทบจากปรับขึ้นราคาก๊าซ
NGV โดยให้รวม รถเมล์ ร่วมบริการ,รถมินิบัสร่วมบริการและรถสองแถวร่วมบริการ
จากเดิมครอบคลุมเฉพาะ รถแท็กซี่, สามล้อ และรถตู้ร่วมบริการเท่านั้น
*ศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เผยผลสำรวจดัชนีความ
เชื่อมั่นผู้บริโภคเดือน ธ.ค.54 อยู่ที่ 63.1 เพิ่มขึ้นจาก 61.0 ใน พ.ย. ซึ่ง
เป็นการเพิ่มขึ้นเป็นครั้งแรกในรอบ 5 เดือน
*ผู้ว่าการ ธปท.คาดจีดีพี ของไทยในปี 54 อาจเติบโตต่ำกว่า 1.8% ที่เคยประเมิน
ไว้ก่อนหน้านี้ หลังไทยได้รับผลกระทบจากภาวะน้ำท่วมครั้งใหญ่ แต่ยังมองว่า
เศรษฐกิจปีนี้ จะยังโต 4.8% ตามคาด
*ตลท.เผยในวันที่ 23 ม.ค.นี้ จะเริ่มใช้ เกณฑ์ Trading Alert List เตือนผู้ลงทุน
ให้ระวังการซื้อขายหลักทรัพย์ ที่ราคาและปริมาณการซื้อขายมีแนวโน้มผิดปกติ
*ผู้จัดการ ตลท. คาดว่า การเสนอขายหุ้น แก่สาธารณชนทั่วไปเป็นครั้งแรก (IPO)
ในปีนี้ จะเพิ่มขึ้นสู่ระดับราว 1.2 แสนลบ. พุ่งขึ้นเกือบ 2 เท่าจากระดับ 6.2
หมื่นล้านบาทในปีที่แล้ว
*โนมูระ เผยผลสำรวจผู้จัดการกองทุน 164 ราย ส่วนใหญ่ให้น้ำหนักลงทุนทองคำสูงกว่า
ตลาดหุ้น สอดคล้องกับมุมมองของ บล.กสิกรไทย ประเมินแนวโน้มทองคำปีนี้ยังขาขึ้น
ระบุผลตอบแทนลงทุนย้อนหลัง 10 ปีสูงกว่า 474% ชนะสินทรัพย์ทุกประเภท คาดปีนี้
ราคาแตะ 1,900 ดอลลาร์ ส่วนภาพรวมตลาดหุ้นปีนี้ดัชนีมีโอกาสลงมาแตะ 812 จุด
(นสพ.กรุงเทพธุรกิจ)
*คนใช้รถหมดทางเลือก เติมน้ำมัน-เอ็นจีวีแพงทั้งนั้น กบง.เคาะเก็บเงินส่งกองทุน
น้ำมันฯ เพิ่ม มีผลพร้อมกัน 16 ม.ค.นี้ ดีเซลทะลุราคาคุมขยับลิตรละ 31 บาท
"มนูญ" ชี้น่าห่วง แพงได้อีกเจอหลายเด้ง สรรพสามิตจ้องกลับมาเก็บภาษีน้ำมัน
(นสพ.มติชน)

การเมือง

*"เฉลิม"จะหารือกับ รมว.มหาดไทย เพื่อให้พิจารณาเยียวยาและฟื้นฟูผู้เสียหาย
จากเหตุการณ์ความไม่สงบในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้
*ส.ส.เพื่อไทย กดดันเด็ก "เยาวภา" พ้นรัฐมนตรี สะพัดเล็งปรับ"รองนายกรัฐมนตรี"
รายหนึ่งพ้นเก้าอื้ ขณะที่"ก่อแก้ว"ออกหน้าทวงโควตา รมต.ให้"จตุพร-ณัฐวุฒิ"
ระบุมีคุณสมบัติเหมาะสม ด้าน"ยิ่งลักษณ์"ปัดตอบข่าวปรับ ครม.หลังตรุษจีน ขณะที่
"ยงยุทธ" ไม่แคร์ข่าวหลุดเก้าอี้ โยนขึ้นอยู่กับนายกฯ ผู้เดียว
(นสพ.กรุงเทพธุรกิจ)
*กกต. กล่าวถึงความคืบหน้าการส่งคำวินิจฉัยกรณี กกต.มีมติให้"จตุพร พรหมพันธุ์"
สิ้นสุดสมาชิกภาพความเป็นส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคเพื่อไทย ต่อประธานสภาผู้แทนฯ
เพื่อยืนให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่า เชื่อว่า กกต.จะสามารถลงนามกันได้ครบทั้ง
5 คนโดยเฉพาะ ประธาน กกต.จะลงนามก่อนเดินทางไปปฏิบัติภารกิจที่ประเทศ
ไต้หวัน จากนั้นจะส่งให้ประธานสภาได้ในวันที่ 13 ม.ค.นี้ (นสพ.กรุงเทพธุรกิจ)


SET:คาดหุ้นไทยวันนี้แกว่งกรอบแคบ นักลงทุนสลับมาเก็งกำไรหุ้นขนาดกลาง-เล็ก 


*นักวิเคราะห์คาดหุ้นไทยวันนี้แกว่งในกรอบแคบๆ หลังหุ้นกลุ่มหลักที่มีอิทธิพลต่อ 
ตลาดอย่างแบงก์ คงไม่เคลื่อนไหวมาก เนื่องจากราคาปรับลงมาสะท้อนปัจจัยลบ และ 
เริ่มนิ่งแล้ว ขณะกลุ่มพลังงาน อาจถูกถ่วงด้วยราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกที่ปรับลง 
*ตลาดหุ้นสหรัฐยังคงปรับตัวขึ้นในวันพฤหัสบดี โดยดัชนี S&P 500 ปิดที่ระดับ 
สูงสุดในรอบ 5 เดือนเป็นวันที่ 3 แต่การปรับตัวเป็นไปอย่างยากลำบาก ขณะที่ 
มีการเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่ซบเซา และมีการประมูลพันธบัตรยุโรป โดยดัชนี 
ดาวโจนส์ ปิดบวก 0.17% 
*ราคาน้ำมันดิบในตลาดล่วงหน้า NYMEX ส่งมอบเดือนก.พ.ปิดวานนี้ ดิ่งลง 1.77 
ดอลลาร์ หรือ 1.75% ปิดที่ 99.10 ดอลลาร์/บาร์เรล หลังมีข่าวว่ามาตรการของ 
สหภาพยุโรป (อียู) ที่ใช้ในการคว่ำบาตรการส่งออกน้ำมันดิบ ของอิหร่าน จะได้รับ 
การนำมาปฏิบัติใช้ ทีละขั้นตอนในระยะเวลา 6 เดือน 
*วันพฤหัสบดีต่างชาติขายสุทธิ 1,259.17 ลบ.จากวันพุธขายสุทธิ 249.45 ลบ. 
*เช้านี้บาท/ดอลลาร์อยู่ที่ 31.74/78 จากเมื่อวันพฤหัสบดีอยู่ที่ 31.81/85 
*นักวิเคราะห์มองแนวรับที่ 1,045 ส่วนแนวต้านที่ 1,055 

"ตลาดวันนี้ คงไม่ได้ move มาก เท่าที่ดู หุ้นกลุ่มหลักๆ ไม่น่าจะเคลื่อนไหวมาก 
แบงก์เอง ก็ลงมาเยอะ สะท้อนปัจจัยลบไปแล้ว ตอนนี้ก็เริ่มนิ่ง" นายเทิดศักดิ์ ทวีธีระธรรม 
ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายวิเคราะห์ บล.เอเซีย พลัส กล่าว 
เขา กล่าวว่า สำหรับปัจจัยหลักด้านอื่นที่กดดันตลาดมาก่อนหน้านี้ เช่น เรื่องของ 
วิกฤติหนี้ยุโรป ก็ยังไม่มีประเด็นที่มีความคืบหน้า ยังต้องรอดู อย่างไรก็ตาม การที่ราคา 
น้ำมันดิบในตลาดโลกปรับลง อาจเป็นปัจจัยที่ถ่วงหุ้นกลุ่มพลังงานในวันนี้ 
ดังนั้นเชื่อว่า ในวันนี้นักลงทุนส่วนใหญ่จะหันมาเก็งกำไรหุ้นขนาดกลางและเล็ก 
แทนหุ้นขนาดใหญ่ 

ดัชนีตลาดหุ้นสำคัญ 
*ดัชนีตลาดหลักทรัพย์เมื่อวันพฤหัสบดี ปิดบวก 0.60 จุด หรือ 0.06% มาที่ 
1,052.23 ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 21,867.68 ล้านบาท 
*ดัชนีอุตสาหกรรมดาวโจนส์ เมื่อวันพฤหัสบดี ปิดบวก 21.57 จุด หรือ 0.17% 
มาที่ 12,471.02 และดัชนีแนสแดค ปิดบวก 13.94 จุด หรือ 0.51% มาที่ 
2,724.70 
*ตลาดหุ้นในภูมิภาคเช้านี้ ส่วนใหญ่บวก โดยตลาดหุ้นสิงคโปร์ บวก 0.54%, ญี่ปุ่น 
บวก 1.33%, เกาหลีใต้ บวก 0.62%, ไต้หวัน บวก 0.49% และฮ่องกง บวก 0.58% 

จับตาหุ้น 
*TISCO ปี 54 กำไรสุทธิเพิ่มเป็น 3.27 พันลบ. 
*TCAP เผยกำไรสุทธิปี 54 ลดลง หลังมีค่าใช้จ่ายเพิ่ม 
*GFPT คาดรายได้ปีนี้โต 10% มองรับผลดี อียูจะนำเข้าเนื้อไก่จากไทย 
*BAY แหล่งข่าวคาดสัปดาห์หน้า BAY เซ็นสัญญาซื้อธุรกิจบัตรเครดิต HSBC ในไทย 
*HEMRAJ เผยยอดขายที่ดินปี 54 ที่ 1.67 พันไร่ เพิ่มขึ้น 80% จากปีก่อน

No comments:

Post a Comment